จาก:
มูลนิธิ เพื่อการพัฒนาเด็ก <iamchild2004@gmail.com>วันที่: 24 พฤษภาคม 2554, 12:15
หัวเรื่อง: ฝากประชาสัมพันธ์ กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านเรียกร้องสิทธิ
ถึง:
ลูกจ้างทำงานบ้านมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างเศรษฐกิจ ในรอบหลายปีที่ผ่านมามีเงินสะพัดในกลุ่มอาชีพนี้จำนวนสูงถึง 27,000 ล้านบาท ลูกจ้างจ้างทำงานบ้านมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจในครอบครัวมีส่วนทำให้ผู้หญิงได้ออกไปทำงานนอกบ้าน ในประเทศไทย มีจำนวนลูกจ้างทำงานบ้านทั้งที่เป็นแรงงานข้ามชาติและแรงงานไทยมีจำนวนไม่น้อย จากการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากร พ.ศ. 2552 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจจำนวนผู้มีงานทำพบว่าจำนวน ลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคลมีอยู่ประมาณ 230,000 คน สถิติอย่างเป็นทางการล่าสุดจากสำนักงานบริหารต่างด้าว พบว่า จำนวนแรงงานข้ามชาติที่จดทะเบียนบัตรอนุญาตทำงานอาชีพทำงานในบ้านในปี พ.ศ. 2553 มีถึง 129,000 คน ความต้องการลูกจ้างทำงานบ้านมีเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันที่สมาชิกวัยแรงงานของครอบครัวส่วนใหญ่ ต้องออกมาทำงานนอกบ้าน ไม่สามารถดูแลงานในบ้านด้วยตนเองได้อย่างเพียงพอ ดังนั้น ลูกจ้างทำงานบ้าน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนไปได้โดยราบรื่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่สภาพการทำงานรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานทำงานในบ้านเอง กลับไม่มีความราบรื่นอย่างที่แรงงานพึงได้รับ เนื่องจากกฎหมายยังไม่ให้การยอมรับว่า งานบ้านคืองาน ทำให้งานบ้านถูกรวมเข้าเป็นงานนอกระบบ ที่ยังไม่มีหลักประกันใดๆ ที่จะให้การคุ้มครองสิทธิแก่แรงงานเหล่านี้ ส่งผลให้ชีวิตของแรงงานทำงานในบ้านไม่ต่างกับการเสี่ยงโชค ไม่รู้ว่าตนจะเจอนายจ้างแบบไหน ค่าจ้างจะได้เท่าไร สภาพการทำงานและความเป็นอยู่ในบ้านนายจ้างจะเป็นเช่นไร คนทำงานในบ้านจึงขาดกลไกการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่นวันหยุดประจำสับดาห์ วันหยุดประจำปี เวลาทำงานที่แน่นอน ค่าจ้างที่เป็นธรรม รวมทั้งสภาพการทำงานและการอยู่อาศัยในบ้านนายจ้างอย่างปลอดภัย ซึ่งแรงงานทำงานในบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ จึงมีความเสี่ยงเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มเข้ามาอีก การขาดกฎหมายคุ้มครองประกอบกับความโดดเดี่ยวในบ้านนายจ้าง นอกจากจะเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดแล้ว ยังปิดกั้นโอกาสในการเข้าถึงการคุ้มครองสิทธิอีกด้วย จึงนับว่าแรงงานทำงานในบ้านในประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาพที่เสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิเป็นอย่างมาก ชึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ด้วยสภาพปัญหาดังกล่าวกลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านในบ้านในประเทศไทยร่วมกับองค์กรภาคเอกชนต่างๆ ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติจึงร่วมกันรณรงค์เพื่อสิทธิของแรงงานทำงานในบ้านมาโดยตลอด เนื่องในโอกาสผู้แทนจากรัฐบาลไทยจะไปเข้าร่วมประชุม ประจำปีองค์การระหว่างประเทศ (ILO) สมัยที่ 100 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ในเดือนมิถุนายน 2554 นี้ กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย ทั้งที่เป็นพี่น้องแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติร่วมกับ องค์กรภาคีเครือข่ายคณะทำงานเพื่อลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย ร่วมกันเพื่อเรียกร้องดังนี้ 1. ขอให้รัฐบาลไทย และคณะผู้ร่วมประชุมไทยประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนสภาองค์การนายจ้าง และผู้แทนสภาองค์การลูกจ้าง สนับสนุนเนื้อหาในร่างอนุสัญญาเพื่อคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน และข้อแนะ ที่จัดเตรียมโดย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ( ILO ) 2. ขอให้กระทรวงแรงงานเร่งประกาศกฎกระทรวงเพื่อคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน ภายในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 เพื่อให้สอดคล้องกับวาระใน วันที่ 28 สิงหาคม เป็นวันแม่บ้านสากล ท้ายที่สุดนี้กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายในสากลโลกจงคุ้มครองผู้แทนจากรัฐบาลไทยให้เดินทางเข้าร่วมการประชุมฯ โดยสวัสดิภาพและเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับข่าวดีหลังการประชุมนี้เรื่องการมีกฎหมายคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน ขอแสดงความนับถือ กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (Home Net) มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ (Map) มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก(มพด.) มูลนิธิผู้หญิง สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ APWLD มูลนิธิเอ็มพาว์เวอร์ We do not inherit the world... We borrow it from our children.. Mr.Chettha Mankhong
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น