นายประวิทย์กล่าวต่อไปว่า จากการร้องเรียนของผู้บริโภครายหนึ่ง ทำให้เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประชุม กทช. ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช. มีมติ ให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ถูกร้องเรียนจัดให้มีระบบขอเปิดใช้บริการข้อมูล (DATA) ที่แยกออกจากการให้บริการเสียง (VOICE) เพื่อแก้ปัญหาการถูกเรียกเก็บค่าบริการอินเทอร์เน็ตทั้งที่ไม่ได้สมัครใช้บริการ
"ในการเปิดให้บริการข้อมูลแก่ผู้ใช้บริการทั่วไป เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมแล้ว ผู้ใช้บริการควรมีโอกาสได้แจ้งความจำนงกับบริษัทว่าต้องการใช้บริการหรือไม่ หากผู้ใช้บริการไม่แสดงความจำนงเข้ามา แต่เปิดให้บริการเองย่อมเป็นการยัดเยียด อีกทั้งการที่ผู้บริโภคสมัครใช้บริการเสียง จะเหมารวมว่าผู้บริโภคขอใช้บริการข้อมูลไปด้วยคงไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกรณีของการสมัครใช้บริการโรมมิ่งควรมีการแยกสมัครระหว่างเสียงและข้อมูลให้ชัดเจน" ผอ.สบท.กล่าว
ผอ.สบท. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กทช.ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช. ยังได้มีมติให้บริษัทที่ถูกร้องเรียนคืนเงินค่าบริการและยุติการเรียกเก็บค่าบริการ จากผู้บริโภคด้วย เนื่องจากบริษัทไม่แสดงหลักฐานเพื่อยืนยันความถูกต้องของการเรียกเก็บค่าบริการภายใน 60 วัน ตามประกาศ กทช. เรื่อง กระบวนการร้องเรียนและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ และประกาศ กทช. เรื่องมาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม
นายประวิทย์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟน ต้องระมัดระวังในการใช้บริการ และควรศึกษาระบบเครื่องโทรศัพท์ให้ดี ตรวจสอบการใช้บริการเป็นระยะ และสามารถป้องกันปัญหาเน็ตรั่วได้โดยปิดการเชื่อมต่อที่เครื่องโทรศัพท์ นอกจากนี้ ควรปิดการเชื่อมต่อที่ระบบเครือข่ายผู้ให้บริการด้วย ซึ่งแต่ละเครือข่ายจะมีเบอร์ตรงในการปิด-เปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้การปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแต่ละเครือข่าย
เอไอเอส กด *129* กด 1 กด # และกดโทรออก หากต้องการเปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยกด *129* กด 2 กด # และกดโทรออก (ฟรีไม่คิดค่าบริการ)
ดีแทค เปิดและปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยกด *1004 กดโทรออก กด 7(ฟรีไม่คิดค่าบริการ) ทรูมูฟ เปิดและปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดย *9399 กดโทรออก (คิดค่าบริการครั้งละ 1 บาท)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น