วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ไขของชะมดที่เช็ดออกมานั้น ตอนนี้มีราคาขายกันอยู่ที่ กรัมละประมาณ 200 บาท




http://howjob.blogspot.com/2011/02/blog-post_9442.html

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

'ชะมดเช็ด'เลี้ยงขาย'ไข'เงินงาม

'ชะมดเช็ด'เลี้ยงขาย'ไข'เงินงามมา

ชะมด เช็ด” เป็นสัตว์ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ เพราะ “ไข”ของชะมดนั้นมีสรรพคุณเป็นยา
นำไปทำยาต่างๆ ทำเครื่องหอม น้ำมันหอมระเหยได้ ซึ่งชาวบ้านแถบ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี

มีการเลี้ยงชะมดกันมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
ซึ่งสัตว์ป่าชนิดนี้ถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ผู้ที่มีไว้ครอบครองจะต้องแจ้งให้ทางกรมป่าไม้ทราบ
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์กรมหาชน) ได้ดำเนินโครงการ
ส่งเสริมการเลี้ยงชะมดเช็ดเชิงพาณิชย์ ซึ่งสร้าง “ช่องทางทำกิน” ให้กับชาวบ้านได้อย่างน่าสนใจ

ฟาร์มป้าน้อย ที่ ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี สืบทอดการ “เลี้ยงชะมด” มาหลายรุ่น
เรียกว่ามีประสบการณ์ในการเลี้ยงชะมดอย่างเชี่ยวชาญ
โดย พจนีย์ น้อยปิ่น เป็นทายาทรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับโอนให้เข้ามาดูแลฟาร์มเลี้ยงชะมดเช็ดแห่งนี้
ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า การเลี้ยงชะมดนั้น เลี้ยงกันมานานแล้ว เดิมเป็นการเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริมจากการทำนา
ส่วนตนเองนั้น หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีก็ยังไม่ได้มารับช่วงเลี้ยง
เพราะหลังจากเรียนจบก็ไปทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง
แต่ทำงานได้อยู่เพียง 1 ปี ตาก็เรียกให้กลับมาช่วยดูแลเลี้ยงชะมดในฟาร์มของที่บ้าน
จึงออกจากงานประจำและมาดูแลทำฟาร์มชะมดอย่างจริงจัง

ในสมัยก่อนนั้นจะเลี้ยงกันอยู่ประมาณ 10-20 ตัว เพราะชะมดนั้นหายาก
และที่สำคัญการที่จะเลี้ยงชะมดที่เป็นสัตว์ป่าสงวนได้นั้น จะต้องมี
ใบอนุญาตจากกรมป่าไม้ 
และชะมดที่นำมาเลี้ยงนั้นจะต้องมีแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง นั่นก็คือ การรับซื้อมาจากคนที่เลี้ยงอยู่เดิม

ที่ฟาร์มแห่งนี้ ปัจจุบันมีชะมดอยู่ทั้งหมด 250 ตัว
โดยรับซื้อมาจากคนที่เลี้ยงอยู่แล้ว รับซื้อมาในราคาตัวละประมาณ 2,000-3,000 บาท
แต่ถ้าเป็นคู่ที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็อยู่ที่คู่ละประมาณ 10,000 บาท

สำหรับกรงที่จะใช้เลี้ยงชะมดเช็ดนั้น จะใช้ไม้ไผ่ตีเป็นกรงรูปสี่เหลี่ยม ขนาดความกว้างประมาณ 1 เมตร
ยาวประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ยกลอยให้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร
ด้านหน้าของกรงจะทำเป็นประตูเลื่อนขึ้นสำหรับเปิดให้อาหารและน้ำ
ส่วนบนจะใช้ไม้ขนาด 1x1 นิ้ว ที่มีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ใส่ลงตรงกลางของกรง
เพื่อให้ชะมดเช็ดได้เช็ดไขน้ำมันที่ไม้ และภายในกรงจะต้องมีภาชนะใส่อาหารใช้กะลามะพร้าว
และก็มีกระบอกใส่น้ำติดอยู่ด้วย โดยจะเลี้ยงชะมดเช็ด 1 ตัวต่อ 1 กรง

ไม้ที่เสียบด้านบนให้ชะมดไว้เช็ดไขนั้น จะใช้ “ไม้โมก
เพราะเวลาที่ขูดเอาไขออกจากไม้ เนื้อไม้จะไม่หลุดออกมาด้วย

ใช้มีดขูดไขของชะมดที่ติดอยู่กับไม้ออก

ชะมดนั้น
 จะเช็ดไขในเวลากลางคืน เวลาเก็บไข ก็จะเก็บในช่วงเช้า 
โดยยกไม้ขึ้นมาแล้วใช้มีดขูดไขของชะมดที่ติดอยู่กับไม้ออกมา แล้วใส่ไม้ลงไว้ที่เดิม
การเก็บไขของชะมดนั้นสามารถเก็บได้ทุกวัน
ซึ่งในช่วงฤดูหนาวชะมดเช็ดจะเช็ดไขออกมาได้ปริมาณมากกว่าในฤดูอื่น

อาหารที่ใช้เลี้ยงนั้น จะใช้อาหารสุก จะให้ปลากับซี่โครงไก่และข้าว
โดยปลาและซี่โครงไก่นั้นจะต้องนำไปนึ่งให้สุก แล้วนำมาบดให้ละเอียดก่อนที่จะนำไปรวนอีกครั้ง
เพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมและดับคาว การให้อาหารก็นำไปคลุกกับข้าว ให้ในมื้อเย็น
ที่ต้องทำให้สุก เพราะข้าวที่ทิ้งไว้ทั้งคืนจะไม่บูด
แต่ถ้าชะมดตัวไหนไม่กินข้าวก็ต้องหาจิ้งจกหรือเขียดเป็นๆ มาให้ชะมดกิน แล้วชะมดที่เลี้ยงก็จะกินข้าวได้

ส่วนมื้อเช้านั้น จะให้เป็นกล้วยน้ำว้ากับนมผงชง เพื่อเป็นการบำรุงให้ชะมดเช็ดมีไขมากขึ้น

ชะมดเช็ดเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจ ไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเดินเข้าไปใกล้กรง ถ้าตื่นตกใจแล้วจะไม่เช็ดไข
เพราะฉะนั้น ตรงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับการเลี้ยงชะมดเช็ดเพื่อเอาไข


ลักษณะไขของชะมดที่เช็ดออกมา พจนีย์ น้อยปิ่น กำลังถือไขของชะมด

สำหรับไขของชะมดที่เช็ดออกมานั้น ตอนนี้มีราคาขายกันอยู่ที่ กรัมละประมาณ 200 บาท
หรือกิโลกรัมละประมาณ 180,000-200,000 บาท
แต่ชะมดเช็ด 1 ตัวจะเช็ดไขหรือของเหลวที่ออกมาจากต่อมกลิ่นตรงก้น ได้ประมาณ 3-4 กรัมต่อเดือนเท่านั้น
ซึ่งที่ฟาร์มป้าน้อยสามารถทำเงินจากการขายไขชะมดได้เดือนละประมาณ 100,000 บาท
โดยเป็นรายได้สุทธิที่หักค่าดูแลและค่าอาหารอีกเดือนละประมาณ 50,000 บาทแล้ว
ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีทีเดียว

ผู้ที่ต้องการติดต่อ ฟาร์มป้าน้อย ต้องการสั่งซื้อไขของชะมด ฟาร์มแห่งนี้อยู่ที่ ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
เบอร์โทรศัพท์สอบถามคือ 08-9030-4823 (คุณพจนีย์) ทั้งนี้
นอกจากเลี้ยงเพื่อเอา 
ไขชะมด”แล้ว ปัจจุบันยังมีการเลี้ยงชะมดเพื่อผลิต ’กาแฟขี้ชะมด” ที่กำลังเป็นที่นิยมด้วย
อาชีพนี้จึงน่าศึกษาไม่น้อยเลย.


บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : เรื่อง-ภาพ
วันเสาร์ ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2554
ข้อมูลโดย : http://www.dailynews.co.th



--
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น