ระเบียบวาระที่ ๒ : เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่ ๒.๑ : การปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ : ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการ กสทช. (นายทศพรฯ), วภ.
มติที่ประชุม ๑. รับทราบข้อมูลคลื่นความถี่ที่อนุญาตและไม่ได้กำหนดอายุการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
๒. ที่ประชุมได้พิจารณารายงานการดำเนินการรับฟังความคิดเห็น และสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติพร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการที่ได้แก้ไขปรับปรุง ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ รวมทั้งข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗ (๑) และมาตรา ๔๘ วรรคท้าย แห่ง พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบข้อ ๙ และข้อ ๒๖ ของระเบียบ กทช.ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ อย่างครบถ้วนแล้ว โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการที่ได้แก้ไขปรับปรุง โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาลงคะแนนลับในวาระนี้ ซึ่งที่ประชุมเสียงข้างมาก ๖ เสียง เห็นชอบแนวทางที่ ๑ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๕ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๑๐ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับเสียงข้างน้อย ๔ เสียง เห็นชอบแนวทางที่ ๒ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๔ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๕ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
๒.๑ ให้ปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ในส่วนของเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการให้มีความชัดเจน โดยเฉพาะเหตุผลในการกำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นในข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่
๒.๒ ให้ปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ พ.ศ. .... ดังนี้
๑) ให้เพิ่มเติมข้อความต่อท้ายข้อความในข้อ ๘.๒.๓.๓ โดยให้ใช้ข้อความใหม่ ดังนี้ "กรณีกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่น ให้มีระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน ๑๕ ปี นับแต่วันที่แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ใช้บังคับ ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย"
๒) ให้คงใช้ข้อความเดิมในข้อ ๘.๒.๑ และ ๘.๒.๒ โดยไม่ต้องระบุเรื่องการคืนคลื่นมาที่ กสทช. ไว้ในร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่
๓) ให้ตัดข้อความในข้อ ๘.๒.๔ ออก
๔) ให้แก้ไขข้อความในข้อ ๑๐ แนวทางปฏิบัติและการประเมินผล จากเดิม ข้อความ "วิสัยทัศน์" แก้ไขใหม่เป็น "บรรลุเป้าหมาย"
ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติให้เรียบร้อยก่อนนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ต่อไป
๓. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างแผนแม่บททั้ง ๓ แผน พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บททั้ง ๓ แผน ที่แก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกันตามมติที่ประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว แจ้งเวียนให้กรรมการทุกท่านพิจารณา และนำเสนอประธาน กสท. และประธาน กทค. เพื่อพิจารณาความครบถ้วนและถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช.ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ก่อนนำเสนอประธาน กสทช.ลงนาม เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนต่อไป
ผลการลงมติรายบุคคลและทั้งคณะตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓
ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ เห็นชอบการปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยในส่วนของการกำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ โดยที่ประชุมเสียงข้างมาก ๖ เสียง ได้แก่ ประธาน กสทช.รองประธาน กสทช.พันเอก เศรษฐพงค์ฯ กสทช.สุทธิพลฯ กสทช.พลเอก สุกิจฯ กสทช.ประเสริฐฯ และ กสทช.พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ฯ เห็นชอบแนวทาง ที่ ๑ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๕ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๑๐ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับที่ประชุมเสียงข้างน้อย ๔ เสียง ได้แก่ รองประธาน กสทช.พันเอก นทีฯ กสทช.ธวัชชัยฯ กสทช.
สุภิญญาฯ และ กสทช.ประวิทย์ฯ เห็นชอบแนวทางที่ ๒ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๔ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๕ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย
หมายเหตุ ๑. กสทช.ประวิทย์ฯ ได้มีบันทึกที่ สทช.๑๐๐๓.๑๐/๑๕๙ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ขอให้นำผลการลงมติและความเห็นในการพิจารณาร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ บันทึกในรายงานการประชุม ดังนี้
"จากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ มีผู้แสดงความคิดเห็นให้ปรับกำหนดเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ลงเพื่อให้การปฏิรูปสื่อบังเกิดผล ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและระบบการแพร่ภาพกระจายเสียงระบบดิจิตอล จะทำให้เกิดการสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ตามระบบอนาล็อกเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นานนัก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะคงกำหนดเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ตามที่ระบุในร่างเดิม แต่สามารถปรับลดได้ ซึ่งกรรมการ กสท.ได้หารือนอกรอบแล้ว กรรมการเสียงข้างมากมีความเห็นให้ปรับลดเวลาลงเหลือไม่เกิน ๔ ปีกรณีกิจการกระจายเสียง และไม่เกิน ๕ ปีกรณีกิจการโทรทัศน์ ผมจึงมีความเห็นสอดคล้องตามความเห็นของกรรมการ กสท.เสียงข้างมาก และเห็นว่าการกำหนดเวลาตามร่างเดิมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริง และส่งผลกระทบต่อกระบวนการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อตอบสนองเจตนารมณ์การปฏิรูปสื่อตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นต้นธารแห่งการก่อตั้งองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง"
๒. กสทช.สุภิญญาฯ ได้มีบันทึกที่ สทช.๑๐๐๓.๙/๔๕ ลงวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕ ขอให้นำผลการลงมติและความเห็นในการพิจารณาร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ บันทึกในรายงานการประชุม ดังนี้
"๑. การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวมีระยะเวลานานเกินไป ทั้งนี้ คณะกรรมการ กสท. มีการประชุมและมีมติกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงไว้ไม่เกิน ๔ ปี และกิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๕ ปี การปรับลดระยะเวลาดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆ จากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่ผ่านมา
๒. การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่เป็นไปตามกระบวนการปฏิรูปการถือครองคลื่นความถี่ที่ใช้ในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการเปลี่ยนระบบการประกอบกิจการโดยการใช้อำนาจรัฐและระบบสัมปทานแต่เดิมมาสู่ระบบการออกใบอนุญาตที่มีความโปร่งใสกับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และเป็นการจัดสรรคลื่นความถี่ที่เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติที่เป็นธรรมให้แก่ภาคส่วนต่างๆ ในการประกอบกิจการบริการสาธารณะ และกิจการบริการชุมชนซึ่งถูกกำหนดให้มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ซึ่งการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ที่สั้นย่อมจะทำให้การปฏิรูปสื่อดังกล่าวเกิดขึ้นได้โดยเร็ว
๓.การคืนทุนของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ ทั้งนี้ การทำสัญญาให้ประกอบกิจการกระจายเสียงทั้งหมดมีลักษณะเป็นสัญญาระยะสั้น ๑–๒ ปี ประกอบกับการลงทุนประกอบกิจการดังกล่าวอาศัยเงินทุนไม่สูง ทำให้มีระยะเวลาคืนทุนไม่ยาว ดังนั้น การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ไม่เกิน ๔ ปี สำหรับกิจการกระจายเสียง จึงมีความเหมาะสมแล้ว
๔.สำหรับกิจการโทรทัศน์ แม้ว่าจะมีต้นทุนในการประกอบกิจการสูงกว่า แต่ผู้ประกอบกิจการภาคเอกชนได้รับสัญญาสัมปทานต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผ่านจุดคุ้มการลงทุนแล้ว ดังนั้น การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ ไม่เกิน ๕ ปี สำหรับกิจการโทรทัศน์ จึงไม่สร้างความเสียหายแก่ผู้ใช้คลื่นความถี่ ประกอบกับกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ดังกล่าว มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการออกอากาศแบบดิจิตอลใน ๔ ปี ซึ่งหากกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ที่ ๑๐ ปี ย่อมไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความพร้อมของเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้เกิดการใช้คลื่นความถี่อย่างสิ้นเปลืองและไม่มีประสิทธิภาพ
๕.การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ไม่กระทบต่อสิทธิในการประกอบกิจการของผู้ได้รับสัมปทานประกอบกิจการโทรทัศน์ เพราะการประกอบกิจการตามอายุสัญญาสัมปทานได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังไม่กระทบต่อหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ให้สัมปทาน เนื่องจากยังคงได้รับส่วนแบ่งรายได้จากสัญญาสัมปทานจนสิ้นสุดอายุสัญญา และหากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ประสงค์จะประกอบกิจการโทรทัศน์ด้วยตนเองต่อไปก็สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตหลังจากที่สิ้นสุดระยะเวลาการใช้คลื่นความถี่ได้ ดังนั้น ข้อกล่าวอ้างที่ว่าการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ไม่ควรสั้นกว่าอายุสัญญาสัมปทานนั้น จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เพราะกรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ให้สัมปทานเท่านั้น
๖.ความคิดเห็นที่ได้รับจากการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะแสดงให้เห็นว่า สังคมเรียกร้องให้ปรับลดกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ เนื่องจากต้องการให้กิจการทั้ง ๓ ประเภทเข้าสู่ระบบการปฏิรูปสื่อ การออกใบอนุญาตและการกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบตามเจตนารมณ์ที่นำมาซึ่งการจัดตั้งองค์กรอิสระอย่าง กสทช. ดังนั้น หากไม่เร่งรัดให้สิ้นสุดระยะเวลาในการคืนคลื่นความถี่ในระบบเดิมโดยเร็ว ก็จะไม่สามารถนำไปสู่การจัดสรรคลื่นความถี่หรือการดำเนินการให้เกิดประโยชน์สาธารณะตามเจตนารมณ์ของกฎหมายภายในวาระการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.ชุดนี้ ซึ่งจะกระทบต่อสิทธิของสาธารณะโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ
๗. สำหรับกิจการโทรคมนาคม กสทช. มีมติให้กำหนดระยะเวลาสูงสุดในการใช้คลื่นความถี่ไว้ไม่เกิน ๑๕ ปี เนื่องจากเห็นว่าอาจกระทบกับกิจการที่ได้รับอนุญาตอยู่ก่อน ข้าพเจ้าขอสงวนความเห็นในการกำหนดระยะเวลาสูงสุดในการใช้คลื่นความถี่ไว้ไม่เกิน ๗ ปี"
ระเบียบวาระที่ ๒.๒ : การปรับปรุง (ร่าง) แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ : กสท.
มติที่ประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า โดยที่ที่ประชุม กสท. ครั้งที่ ๙/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และที่ประชุม กสท. ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ได้มีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการและร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗ (๑) และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบข้อ ๙ และข้อ ๒๖ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ อย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙)พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กสท. (พันเอก นทีฯ) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมวาระที่ ๒.๒ ในส่วนที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) ให้เรียบร้อยเพื่อนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ก่อนนำเสนอประธาน กสทช. ลงนาม เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนต่อไป
ผลการลงมติรายบุคคลและทั้งคณะตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓
ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กสท. (พันเอก นทีฯ) เสนอ
ระเบียบวาระที่ ๒.๓ : การปรับปรุงร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ : กทค.
มติที่ประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า โดยที่ที่ประชุม กทค. ครั้งที่ ๙/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ได้มีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมที่ได้แก้ไขปรับปรุงภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ รวมทั้งข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗ (๑) และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบข้อ ๙ และข้อ ๒๖ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ อย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙)พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กทค. (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมในวาระที่ ๒.๑ ในส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม รวมทั้ง ให้เพิ่มเติมข้อความต่อไปนี้ "ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ -๒๕๕๙)"ในร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้รูปแบบการจัดทำเป็นไปในทิศทางเดียวกับร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้เรียบร้อยก่อนนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ต่อไป
ผลการลงมติรายบุคคลและทั้งคณะตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓
ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และ (ร่าง) แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กทค. (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) เสนอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น