วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

ร่าง รายงานการประชุม สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๕ วันพุธที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕

  Supinya Klangnarong "จากที่เคยเป็นมติลับ ตอนนี้สนง.กสทช.ต้องเปิดเผยผลการลงมติรายบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามพรบ.กสทช.ระบุไว้ว่าการตัดสินใจของบอร์ดในเรื่องที่กระทบประโยชน์สาธารณะต้องมีการเปิดเผยผลการลงมติของกสทช.ทุกท่าน
...ดิฉันได้ทำคำสงวนกรณีลงมติค้านสูตรคืนคลื่นความถี่ฯ 5-10-15 ไว้ด้วยประมาณ 3 หน้าในบันทึกการประชุมครั้งนี้ http://bit.ly/I5f7SY"

แก้ไขโดย: สำนักการประชุมและเลขานุการ 
ร่าง
รายงานการประชุม
   คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ   
  ครั้งที่ ๕/๒๕๕๕
วันพุธที่  ๒๑  มีนาคม  ๒๕๕๕
     เวลา  ๐๙.๓๐ น.  
  ณ ห้องประชุมชั้น ๑๒ อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ผู้เข้าประชุม

 

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

๑. พลอากาศเอก ธเรศ           ปุณศรี                   ประธานกรรมการ

๒. พันเอก นที                    ศุกลรัตน์                รองประธานกรรมการ

๓. พันเอก เศรษฐพงค์           มะลิสุวรรณ             รองประธานกรรมการ

๔. นายสุทธิพล                        ทวีชัยการ                   กรรมการ

๕. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์          งามสง่า                      กรรมการ

๖.  นายประเสริฐ                        ศีลพิพัฒน์                  กรรมการ

๗.  ผศ.ดร. ธวัชชัย                    จิตรภาษ์นันท์              กรรมการ

๘.  นางสาวสุภิญญา                  กลางณรงค์                  กรรมการ

๙.   นายประวิทย์                        ลี่สถาพรวงศา             กรรมการ

๑๐. พลเอก สุกิจ                        ขมะสุนทร                   กรรมการ

๑๑.  นายฐากร                             ตัณฑสิทธิ์                   เลขาธิการ กสทช. เลขานุการ

 

ผู้ไม่เข้าประชุม

๑.  พลโท ดร. พีระพงษ์            มานะกิจ                     ติดภารกิจ

 

ผู้เข้าร่วมประชุม        

๑. พลอากาศเอก คณิต          สุวรรณเนตร            เลขานุการประธาน กสทช.

 

เจ้าหน้าที่การประชุม

๑. นายเฉลิมชัย                    ก๊กเกียรติกุล             ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการกลุ่มงานประธานกรรมการ

                                                                   และการประชุม

๒. นายบุญยิ่ง                     โหมดเทศน์                ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น

                                                                   กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๓. นางอรุณ                        วงศ์ศิวะวิลาส             ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น

                                                                   กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๔. นายขจรศักดิ์                   ทานานนท์                ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น

                                                                   กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๕. นายสมสกุล                    ชัยกาญจนาศักดิ์         ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น

                                                                   กลุ่มงานเลขานุการและการกำกับดูแลองค์กร

๖. นางนภาพร                     เก่งสาร                    ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง

                                                                   กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๗. นางสาวกานต์ชนา             เกตุสุวรรณ                ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง

                                                                    กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๘. นางสาวสุภาวดี                 สดศรี                      ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง

                                                                    กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๙. นางสาวจุฑาสินี                คำบำรุง                    ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง

                                                                    กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

๑๐. นางสาวอภิชญามล            วารุณประภา              ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง

                                                                    กลุ่มงานประธานกรรมการและการประชุม

 

ผู้ชี้แจง

๑.  นายดำรงค์                           วัสโสทก                      ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ กลุ่มงานการอนุญาต           

                                                                   และกำกับวิทยุคมนาคม

๒.  นายองอาจ                         เรืองรุ่งโสม                    ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ

                                                                   กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ๑

๓.  นายสุทธิศักดิ์                       ตันตะโยธิน                  ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น รักษาการ                                    

                                                                   ผู้อำนวยการ กลุ่มงานวิชาการและจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม

๔.  นายอดุลย์                           วิเศษบุปผา                   ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง กลุ่มงานบริหารความถี่วิทยุ

๕.  นายมนต์สรรพ์                      ทรงแสง                      ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง กลุ่มงานบริหารความถี่วิทยุ

๖.  นางสาวกอกนก                    กิจบาลจ่าย                  ปฏิบัติหน้าที่ ผู้บริหารระดับต้น รักษาการ

                                                                   ผู้อำนวยการ กลุ่มงานอำนวยการภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์

๗.  นางสาวพิชญนุช                  ชลาชีวะ                       ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง

                                                                   กลุ่มงานวิชาการและจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม

๘.  นายธนิษฐ์นันท์                กิตติชนะเจริญ              ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานตามสัญญาจ้าง

                                                                   กลุ่มงานอำนวยการภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์

 

ระเบียบวาระที่     :    เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ

 

๑.   วันนี้เป็นการประชุม กสทช. ครั้งที่ ๕/๒๕๕๕ (นัดพิเศษ) เพื่อพิจารณาเรื่องที่สำคัญ ๓ เรื่อง ได้แก่ ๑) การปรับปรุง (ร่าง) แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ๒) การปรับปรุง (ร่าง) แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๘ - ๒๕๕๙) และ  ๓) การปรับปรุง (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ทั้งนี้ ขอความกรุณากรรมการทุกท่านช่วยเสนอแนะความเห็นต่อร่างแผนแม่บทฯ ทั้ง ๓ แผน เพื่อให้สำนักงาน กสทช. นำไปปรับปรุงแก้ไขขั้นสุดท้ายให้เรียบร้อย เพื่อให้มีความสมบูรณ์ ก่อนนำไปลงประกาศในราชกิจจา-นุเบกษา เพื่อใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติของ กสทช.ต่อไป ซึ่งมีความเห็นในเบื้องต้นที่จะขอฝากที่ประชุม ๒ – ๓ เรื่อง ตามที่ได้เรียนหารือไว้ เรื่องความเป็นมาตรฐานของแผน รูปแบบเช่น หัวข้อต่างๆ ควรมีรูปแบบและเนื้อหาที่สอดคล้องกับระเบียบงานสารบรรณให้เรียบร้อย อาทิ ตัวเลข เพราะใช้แตกต่างกันคนละระบบทั้ง ๓ แผน ถ้าไม่ขัดข้องก็จะไปปรับให้สอดคล้องเฉพาะแบบฟอร์ม โดยไม่ยุ่งกับเนื้อหา นอกจากนี้เรื่องการตอบข้อคิดเห็นของประชาชนทั้ง ๓ แผน ควรตอบให้สอดคล้องกัน เพราะในบางครั้งคำถามเดียวกันอาจตอบไม่เหมือนกันก็ควรจะพิจารณาใช้เป็นแนวทางเดียวกันเพื่อความเรียบร้อย เพราะในบางกรณีการชี้แจงไม่ตรงกันอาจเกิดปัญหาการฟ้องร้องเนื่องจากการชี้แจงที่แตกต่างกัน

๒.  การรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ๒๕๕๔ ของ กสทช. ตามมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ซึ่งกำหนดให้จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี เสนอต่อคณะรัฐมนตรี และรัฐสภาภายใน ๑๒๐ วัน นับแต่วันสิ้นบัญชีนั้น ทางฝ่ายเลขานุการฯ ได้นำเสนอข้อมูล รูปเล่มให้กรรมการ กสทช. เพื่อรับข้อคิดเห็นจากกรรมการทั้ง ๑๑ ท่าน กรรมการหลายท่านได้ให้ข้อคิดเห็นแล้ว บางท่านกำลังดำเนินการเสนอ ขอให้ส่งข้อคิดเห็นให้ฝ่ายเลขานุการฯ ภายในวันศุกร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ นี้ เพื่อดำเนินการจัดพิมพ์ให้เรียบร้อย ตามกำหนดเวลาต่อไป ซึ่ง กสทช.ประวิทย์ฯ ได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมว่าตามกรอบปฏิทินเดิม ซึ่งสำนักงานฯ กำหนดไว้จะส่งร่างให้คณะกรรมการให้ความเห็นเป็นรายบุคคล ก่อนรวบรวมปรับปรุงเสนอเข้าที่ประชุมเพื่อเห็นชอบรายงานฉบับสุดท้าย ก่อนจัดพิมพ์และนำส่งรัฐสภา ซึ่งเข้าใจว่าจะไม่ทัน เพราะการประชุมครั้งต่อไปประมาณปลายเดือนเมษายน และกำหนดระยะเวลา ๑๒๐ วัน (๓๐ เมษายน ๒๕๕๕) ถ้ารอให้ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบครั้งสุดท้ายการจัดส่งรายงานฯ จะไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ถ้าเป็นไปได้อาจจะขอให้ที่ประชุมมอบหมาย กสทช.ประเสริฐฯ กสทช.ผศ.ดร.ธวัชชัยฯ และ กสทช.สุทธิพลฯ เป็นองค์คณะในการพิจารณาความถูกต้องครบถ้วนของร่างฉบับที่แก้ไขปรับปรุงก่อนให้สำนักงาน กสทช.รับไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้รองประธาน กสทช.(พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) เสนอให้เพิ่มเติม กสทช.ทวีศักดิ์ฯ ช่วยพิจารณาตรวจร่างรายงานฯ อีก ๑ ท่าน 

 

มติที่ประชุม             ๑.   รับทราบเรื่องประธาน กสทช. แจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

๒.   มอบหมายให้ กสทช.ประเสริฐฯ  กสทช.ผศ.ดร. ธวัชชัยฯ  กสทช.สุทธิพลฯ และ กสทช.พันตำรวจเอก

  ทวีศักดิ์ฯ เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของร่างรายงานผลการปฏิบัติงาน ประจำปี ๒๕๕๔ ของ กสทช.ก่อนให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการจัดพิมพ์ เพื่อจัดส่งให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ภายในกรอบเวลา ตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ระเบียบวาระที่  ๒   :   เรื่องเพื่อพิจารณา

 

ระเบียบวาระที่ ๒.๑ :  การปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการ กสทช. (นายทศพรฯ), วภ.

 

มติที่ประชุม                ๑.   รับทราบข้อมูลคลื่นความถี่ที่อนุญาตและไม่ได้กำหนดอายุการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ

                                    ๒.   ที่ประชุมได้พิจารณารายงานการดำเนินการรับฟังความคิดเห็น และสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติพร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการที่ได้แก้ไขปรับปรุง ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ รวมทั้งข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗ (๑) และมาตรา ๔๘ วรรคท้าย แห่ง พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบข้อ ๙ และข้อ ๒๖ ของระเบียบ กทช.ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ อย่างครบถ้วนแล้ว โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการที่ได้แก้ไขปรับปรุง โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาลงคะแนนลับในวาระนี้ ซึ่งที่ประชุมเสียงข้างมาก ๖ เสียง เห็นชอบแนวทางที่ ๑ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๕ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๑๐ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับเสียงข้างน้อย ๔ เสียง เห็นชอบแนวทางที่ ๒ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๔ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๕ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้

      ๒.๑ ให้ปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ในส่วนของเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการให้มีความชัดเจน โดยเฉพาะเหตุผลในการกำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นในข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่

      ๒.๒ ให้ปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ พ.ศ. .... ดังนี้

๑)   ให้เพิ่มเติมข้อความต่อท้ายข้อความในข้อ ๘.๒.๓.๓ โดยให้ใช้ข้อความใหม่ ดังนี้ "กรณีกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่น ให้มีระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน ๑๕ ปี นับแต่วันที่แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ใช้บังคับ ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย"

๒)  ให้คงใช้ข้อความเดิมในข้อ ๘.๒.๑ และ ๘.๒.๒ โดยไม่ต้องระบุเรื่องการคืนคลื่นมาที่ กสทช. ไว้ในร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่

๓)   ให้ตัดข้อความในข้อ ๘.๒.๔ ออก

๔)  ให้แก้ไขข้อความในข้อ ๑๐ แนวทางปฏิบัติและการประเมินผล จากเดิม ข้อความ "วิสัยทัศน์" แก้ไขใหม่เป็น "บรรลุเป้าหมาย"

ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติให้เรียบร้อยก่อนนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ต่อไป

๓.   มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างแผนแม่บททั้ง ๓ แผน พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บททั้ง ๓ แผน ที่แก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกันตามมติที่ประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว แจ้งเวียนให้กรรมการทุกท่านพิจารณา และนำเสนอประธาน กสท. และประธาน กทค. เพื่อพิจารณาความครบถ้วนและถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช.ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ก่อนนำเสนอประธาน กสทช.ลงนาม เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนต่อไป

 

 

ผลการลงมติรายบุคคลและทั้งคณะตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓

                                   

                                   ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ เห็นชอบการปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และร่างตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยในส่วนของการกำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ โดยที่ประชุมเสียงข้างมาก ๖ เสียง ได้แก่ ประธาน กสทช.รองประธาน กสทช.พันเอก เศรษฐพงค์ฯ กสทช.สุทธิพลฯ กสทช.พลเอก สุกิจฯ กสทช.ประเสริฐฯ และ กสทช.พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ฯ เห็นชอบแนวทาง ที่ ๑ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๕ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๑๐ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับที่ประชุมเสียงข้างน้อย ๔ เสียง ได้แก่ รองประธาน กสทช.พันเอก นทีฯ กสทช.ธวัชชัยฯ กสทช. 
สุภิญญาฯ และ กสทช.ประวิทย์ฯ เห็นชอบแนวทางที่ ๒ กำหนดระยะเวลาการคืนคลื่นตามข้อ ๘.๒.๓ ของร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ในส่วนของกิจการกระจายเสียงกำหนดไม่เกิน ๔ ปี กิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๕ ปี และกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นไม่เกิน ๑๕ ปี ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยชอบด้วยกฎหมาย

 

หมายเหตุ                   ๑.  กสทช.ประวิทย์ฯ ได้มีบันทึกที่ สทช.๑๐๐๓.๑๐/๑๕๙ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ขอให้นำผลการลงมติและความเห็นในการพิจารณาร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ บันทึกในรายงานการประชุม ดังนี้

"จากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ มีผู้แสดงความคิดเห็นให้ปรับกำหนดเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ลงเพื่อให้การปฏิรูปสื่อบังเกิดผล ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและระบบการแพร่ภาพกระจายเสียงระบบดิจิตอล จะทำให้เกิดการสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ตามระบบอนาล็อกเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นานนัก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะคงกำหนดเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ตามที่ระบุในร่างเดิม แต่สามารถปรับลดได้ ซึ่งกรรมการ กสท.ได้หารือนอกรอบแล้ว กรรมการเสียงข้างมากมีความเห็นให้ปรับลดเวลาลงเหลือไม่เกิน ๔ ปีกรณีกิจการกระจายเสียง และไม่เกิน ๕ ปีกรณีกิจการโทรทัศน์ ผมจึงมีความเห็นสอดคล้องตามความเห็นของกรรมการ กสท.เสียงข้างมาก และเห็นว่าการกำหนดเวลาตามร่างเดิมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริง และส่งผลกระทบต่อกระบวนการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อตอบสนองเจตนารมณ์การปฏิรูปสื่อตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นต้นธารแห่งการก่อตั้งองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง"

 ๒.  กสทช.สุภิญญาฯ ได้มีบันทึกที่ สทช.๑๐๐๓.๙/๔๕ ลงวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕ ขอให้นำผลการลงมติและความเห็นในการพิจารณาร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ บันทึกในรายงานการประชุม ดังนี้

"๑. การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวมีระยะเวลานานเกินไป ทั้งนี้ คณะกรรมการ กสท. มีการประชุมและมีมติกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงไว้ไม่เกิน ๔ ปี และกิจการโทรทัศน์ไม่เกิน ๕ ปี การปรับลดระยะเวลาดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆ จากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่ผ่านมา

๒. การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่เป็นไปตามกระบวนการปฏิรูปการถือครองคลื่นความถี่ที่ใช้ในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการเปลี่ยนระบบการประกอบกิจการโดยการใช้อำนาจรัฐและระบบสัมปทานแต่เดิมมาสู่ระบบการออกใบอนุญาตที่มีความโปร่งใสกับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และเป็นการจัดสรรคลื่นความถี่ที่เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติที่เป็นธรรมให้แก่ภาคส่วนต่างๆ ในการประกอบกิจการบริการสาธารณะ และกิจการบริการชุมชนซึ่งถูกกำหนดให้มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ซึ่งการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ที่สั้นย่อมจะทำให้การปฏิรูปสื่อดังกล่าวเกิดขึ้นได้โดยเร็ว

๓.การคืนทุนของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ ทั้งนี้ การทำสัญญาให้ประกอบกิจการกระจายเสียงทั้งหมดมีลักษณะเป็นสัญญาระยะสั้น ๑–๒ ปี ประกอบกับการลงทุนประกอบกิจการดังกล่าวอาศัยเงินทุนไม่สูง ทำให้มีระยะเวลาคืนทุนไม่ยาว ดังนั้น การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ไม่เกิน ๔ ปี สำหรับกิจการกระจายเสียง จึงมีความเหมาะสมแล้ว

๔.สำหรับกิจการโทรทัศน์ แม้ว่าจะมีต้นทุนในการประกอบกิจการสูงกว่า แต่ผู้ประกอบกิจการภาคเอกชนได้รับสัญญาสัมปทานต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผ่านจุดคุ้มการลงทุนแล้ว ดังนั้น การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ ไม่เกิน ๕ ปี สำหรับกิจการโทรทัศน์ จึงไม่สร้างความเสียหายแก่ผู้ใช้คลื่นความถี่ ประกอบกับกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ดังกล่าว มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการออกอากาศแบบดิจิตอลใน ๔ ปี ซึ่งหากกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ที่ ๑๐ ปี ย่อมไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความพร้อมของเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้เกิดการใช้คลื่นความถี่อย่างสิ้นเปลืองและไม่มีประสิทธิภาพ

๕.การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ไม่กระทบต่อสิทธิในการประกอบกิจการของผู้ได้รับสัมปทานประกอบกิจการโทรทัศน์ เพราะการประกอบกิจการตามอายุสัญญาสัมปทานได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังไม่กระทบต่อหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ให้สัมปทาน เนื่องจากยังคงได้รับส่วนแบ่งรายได้จากสัญญาสัมปทานจนสิ้นสุดอายุสัญญา และหากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ประสงค์จะประกอบกิจการโทรทัศน์ด้วยตนเองต่อไปก็สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตหลังจากที่สิ้นสุดระยะเวลาการใช้คลื่นความถี่ได้ ดังนั้น ข้อกล่าวอ้างที่ว่าการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ไม่ควรสั้นกว่าอายุสัญญาสัมปทานนั้น จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เพราะกรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ให้สัมปทานเท่านั้น

๖.ความคิดเห็นที่ได้รับจากการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะแสดงให้เห็นว่า สังคมเรียกร้องให้ปรับลดกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ เนื่องจากต้องการให้กิจการทั้ง ๓ ประเภทเข้าสู่ระบบการปฏิรูปสื่อ การออกใบอนุญาตและการกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบตามเจตนารมณ์ที่นำมาซึ่งการจัดตั้งองค์กรอิสระอย่าง กสทช. ดังนั้น หากไม่เร่งรัดให้สิ้นสุดระยะเวลาในการคืนคลื่นความถี่ในระบบเดิมโดยเร็ว ก็จะไม่สามารถนำไปสู่การจัดสรรคลื่นความถี่หรือการดำเนินการให้เกิดประโยชน์สาธารณะตามเจตนารมณ์ของกฎหมายภายในวาระการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.ชุดนี้ ซึ่งจะกระทบต่อสิทธิของสาธารณะโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ

๗. สำหรับกิจการโทรคมนาคม กสทช. มีมติให้กำหนดระยะเวลาสูงสุดในการใช้คลื่นความถี่ไว้ไม่เกิน ๑๕ ปี เนื่องจากเห็นว่าอาจกระทบกับกิจการที่ได้รับอนุญาตอยู่ก่อน ข้าพเจ้าขอสงวนความเห็นในการกำหนดระยะเวลาสูงสุดในการใช้คลื่นความถี่ไว้ไม่เกิน ๗ ปี"

 

ระเบียบวาระที่ ๒.๒ :  การปรับปรุง (ร่าง) แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ : กสท.

 

มติที่ประชุม                ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า โดยที่ที่ประชุม กสท. ครั้งที่ ๙/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และที่ประชุม กสท. ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ได้มีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการและร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) ภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗ (๑) และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบข้อ ๙ และข้อ ๒๖ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ อย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙)พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กสท. (พันเอก นทีฯ) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมวาระที่ ๒.๒ ในส่วนที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) ให้เรียบร้อยเพื่อนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ก่อนนำเสนอประธาน กสทช. ลงนาม เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนต่อไป

 

ผลการลงมติรายบุคคลและทั้งคณะตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓

                                   

                                   ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กสท. (พันเอก นทีฯ) เสนอ

 

ระเบียบวาระที่ ๒.๓ :  การปรับปรุงร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ กทค.   

 

มติที่ประชุม                ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า โดยที่ที่ประชุม กทค. ครั้งที่ ๙/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ได้มีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมที่ได้แก้ไขปรับปรุงภายหลังการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ รวมทั้งข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗ (๑) และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบข้อ ๙ และข้อ ๒๖ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ อย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙)พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ –๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กทค. (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมในวาระที่ ๒.๑ ในส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการปรับปรุงรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พร้อมเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการ และร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม รวมทั้ง ให้เพิ่มเติมข้อความต่อไปนี้ "ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๕ -๒๕๕๙)"ในร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้รูปแบบการจัดทำเป็นไปในทิศทางเดียวกับร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้เรียบร้อยก่อนนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน และให้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.๒๕๕๓ ประกอบกับข้อ ๒๙ และข้อ ๓๐ ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ พ.ศ.๒๕๔๘ ต่อไป

 

ผลการลงมติรายบุคคลและทั้งคณะตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓

                                   

                                   ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง)แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และ (ร่าง) แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ตามที่ประธาน กทค. (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) เสนอ

 

ระเบียบวาระที่ ๓    :    เรื่องอื่นๆ

 

ระเบียบวาระที่ ๓.๑ :  การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคว่าด้วยการประสานและจัดสรรความถี่วิทยุตามบริเวณชายแดนไทย – ลาว (JTC) ครั้งที่ ๓ : ปฏิบัติหน้าที่ รองเลขาธิการ กสทช. (นายทศพรฯ), ตย.

 

มติที่ประชุม                ๑.  อนุมัติให้สำนักงาน กสทช เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคว่าด้วยการประสานและจัดสรรความถี่วิทยุตามบริเวณชายแดนไทย –ลาว ครั้งที่ ๓ (The3rd Meeting of Joint Technical Committee on Coordination and Assignment of Frequencies along Thailand – Lao Common Border – JTC) ระหว่างวันที่ ๒๕ –๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ จังหวัดขอนแก่น โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณการจัดการและบริหารองค์กร (ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม)ประจำปี ๒๕๕๕ ซึ่งตั้งไว้จำนวน ๘๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ

๒.   อนุมัติให้รองเลขาธิการ กสทช. (นายทศพรฯ) ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย และผู้แทนกลุ่มงานบริหารความถี่วิทยุ (วถ.)กลุ่มงานภูมิภาค (ภภ.) กลุ่มงานการต่างประเทศ (ตย.) และกลุ่มงานมาตรฐานเทคโนโลยี BC TV (ทส.) เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมตามข้อ ๑

 

หมายเหตุ               ในช่วงเสร็จสิ้นการประชุม ประธาน กสทช. ขอให้ประธาน กทค. รับเรื่องการพิจารณาเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นหมายเลขสวยไปพิจารณา ซึ่งประธาน กทค. (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) ขอรับไปดำเนินการ

 

หมายเหตุ                   ร่างรายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ครั้งที่

                           ๕/๒๕๕๕ อยู่ในระหว่างนำเสนอที่ประชุมพิจารณารับรองในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๕๕ วันพุธที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๕


http://cabinet.nbtc.go.th/wps/portal/cabinet/!ut/p/c5/04_SB8K8xLLM9MSSzPy8xBz9CP0os3gTf3MX0wB3U08ndw9TA89Ap2ATV9-QoKAQY_1wkA6zeB9zn2Az8yAjAwMDExcDIx-fUDMXC18jA3djiLwBDuBooO_nkZ-bql-QnZ3m6KioCAAxlcA6/dl3/d3/L2dJQSEvUUt3QS9ZQnZ3LzZfNE83RDVQRzVJQkdINTBJUUJTNEVNVFI3Rzc!/?WCM_GLOBAL_CONTEXT=/wps/wcm/connect/cabinet/cabinet/cabinet/agenda2555/e1db25804a93c354800bddb1f5b6d48d&housecatagory=CAT2 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น