วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

'ขอทานใจพระ'ยังเนื้อหอม คนแห่ดูตัว-ร่วมทำบุญ

 

'ขอทานใจพระ'ยังเนื้อหอม คนแห่ดูตัว-ร่วมทำบุญ

"ลุงเอี่ยม" ขอทานใจบุญยังเป็นที่สนใจของสาธุชนที่ไปทำบุญวัดไร่ขิง อ.สามพราน บริจาคเงินให้เพื่อร่วมทำบุญ ขณะที่ รอง ผบช.ภ.7 พาครอบครัวแวะเยี่ยม เพราะเป็นห่วงกลัวถูกมิจฉาชีพทำร้ายเอาเงิน แต่เบาใจเพราะทางธนาคารจะส่ง จนท.มารับเงินเข้าบัญชีทุกเย็น...

จากกรณีนายเอี่ยม คัมภิรานนท์ อายุ 62 ปี ชาว ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ผู้พิการป่วยเป็นโปลิโอ แขนขาลีบ ลิ้นไก่สั้น พูดไม่ชัด ย้ายถิ่นฐานมาประกอบอาชีพขอทานอยู่ที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม มากว่า 30 ปี นำเงินที่ได้รับจากผู้มีจิตศรัทธาเก็บหอมรอมริบ นำบริจาคให้กับพระในโบสถ์วัดไร่ขิง มาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้นำเงินที่เก็บออมได้สาธุชนที่มากราบไหว้พระในโบสถ์ จำนวน 999,999.99 บาท พร้อมกับจ้างวงดนตรี ตั๊กแตน ชลดา มาแสดงฉลองในงานบริจาคด้วย สร้างความฮือฮา จนเป็นข่าวใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์และทีวี ต่างมารายงานข่าวกันอย่างคึกโครม ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดไร่ขิงพระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งวันเดียวกันนี้ทางวัดได้จัดงานประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชาและเหรียญคณาจารย์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2555 ที่จัดขึ้นวันที่ 17-18 มี.ค. ทำให้มีประชาชนเดินทางมาวัดไร่ขิงกันอย่างแน่นขนัด ส่วนที่บริเวณที่นายเอี่ยม คัมภิรานนท์ ขอทานใจบุญนั่งอยู่นั้น มีผู้คนห้อมล้อมเป็นพิเศษ เพื่อต้องการมาเห็นตัวจริงและให้กำลังใจ พร้อมกับร่วมมอบเงินทำบุญให้ ซึ่งในวันนี้นายเอี่ยม มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทายผู้คนและไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ ต่างมาขอถ่ายภาพ และบริจาคเงินใส่ในกระเป๋าเสื้อจนล้น นายเอี่ยมต้องนำถุงพลาสติกสีฟ้าใส่เงินที่ชาวบ้านให้ ซึ่งมีทั้งธนบัตรฉบับละ  20 บาท ไปจนถึงธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทก็มี

พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 ซึ่งเดินทางกลับจากงานแต่งบุตรสาวของเพื่อน พร้อมด้วย ภรรยาและบุตรสาวที่เป็นแพทย์ ร.พ.นครชัยศรี ได้แวะเข้ามาที่วัดไร่ขิงเพื่อดูตัวนายเอี่ยม ซึ่งได้พูดคุยกับนายเอี่ยม ผ่านล่าม นายเอี่ยมแสดงอาการดีใจ เมื่อพล.ต.ต.โสภณ ถามว่าสบายดีไหม พร้อมกับบอกผ่านล่ามด้วยความเป็นห่วงว่า หลังจากที่นายเอี่ยมเป็นข่าวการบริจาคมากมายให้วัด กลัวว่านายเอี่ยมจะไม่ปลอดภัย เพราะเวลาเย็นเมื่อเลิกจากการนั่งบอกบุญแล้วนำเงินใส่ถุงมากๆกลัวว่าคนไม่หวังดีจะเข้าทำร้ายแย่งเงิน ซึ่งนายเอี่ยมได้พูดผ่านล่ามว่าไม่กลัวเพราะอายุมากแล้ว ขณะนี้พอตกเย็นก่อนกลับบ้านก็จะมีเจ้าหน้าที่การเงินของธนาคารมานับเงินตรวจสอบเอาเข้าบัญชีให้ เพราะทางธนาคารก็เป็นห่วงเช่นเดียวกัน 

จากนั้นนายเอี่ยม เมื่อเห็นหมวกแก๊ป ซึ่งมีสัญญาลักษณ์หน้าหมวกตำรวจภาค 7 และปัก ปปส.ภ.7 ที่ พล.ต.ต.โสภณ สวมใส่อยู่ ได้กระซิบผ่านล่ามว่าอยากได้หมวกแก๊ปของตำรวจมาใส่ เพราะบางทีออกไปซื้อของอากาศร้อนมาก พล.ต.ต.โสภณ จึงตอบกลับไปว่าหมวก ตร.ภ.7 นั้นมีคุณค่าผู้ที่ได้รับไปนั้นจะต้องทำประโยชน์ให้กับ ตำรวจ เช่น แจ้งเบาะแส หรือช่วยในการประสานงานในด้านต่างๆให้ ตร.หรือเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ ตร.ถึงจะได้รับหมวกนี้ 

นายเอี่ยมได้แสดงอาการดีใจ พร้อมกับให้จัดทำโปสเตอร์เพื่อมาติดที่ด้านหลังที่นายเอี่ยมนั่งบอกบุญอยู่ ซึ่ง พล.ต.ต.โสภณ จึงได้สั่งทำโปสเตอร์ เขียนข้อความว่า "ช่วยกันทำดีเพื่อชาติ อย่าให้ลูกหลานตกเป็นทาสยาเสพติด" นำมาติดตั้งไว้พร้อมกับมอบหมวกแก๊ปของ ตร.ภ.7 ให้ไว้ นายเอี่ยมเมื่อได้รับหมวกแก๊ป รีบนำขึ้นมาสวมใส่ศรีษะทันที พร้อมกับแสดงอาการดีใจทำท่าตะเบ๊ะให้คนที่มุงดูชม เรียกเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม

พล.ต.ต.โสภณ เผยว่าในการมาเยี่ยมเยียนนายเอี่ยมครั้งนี้ เพื่อต้องการมาดูว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร และมีความห่วงใย หลังจากที่มีข่าวว่านายเอี่ยมบริจาคเงินให้กับวัด 1 ล้านบาท กลัวมิจฉาชีพจะมาดักทำร้ายปล้นจี้เอาเงิน ประกอบกับตัวลุงเอี่ยมนั้นพิการ ไม่ค่อยมีคนดูแลคนร้ายอาจจะฉกฉวยโอกาสได้ แต่ก็มาทราบว่าลุงเอี่ยมไม่ได้พกเงินทีละมากๆ และปัจจุบันธนาคารจะมารับเงินฝากจากลุงเอี่ยมถึงที่วัดเลยในตอนเย็น ก็เบาใจไปส่วนหนึ่ง ส่วนหมวกแก๊ป ตร.ภ.7 ที่มอบให้นั้น นายเอี่ยมถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ ถึงแม้ตัวจะพิการ แต่ก็สามารถช่วยเหลืองานของ ตร.ได้ 

"ขณะนี้ต้องยอมรับว่าลุงเอี่ยมแกดังกว่าดาราอีก ผมมานั่งสนทนาเพียงแค่ 20 นาที มีคนมาทำบุญกับลุงเอี่ยมแน่นขนัดขนาดนี้ จึงให้จัดทำป้ายขึ้นเพื่อเป็นการเตือนสติให้คนไทยทำความดีเพื่อชาติ ช่วยกันตักเตือนบุตรหลานอย่าให้เข้าไปเป็นทาสของยาเสพติด แค่เขียนข้อความก็มีคนมาอ่านนับหมื่นคนแล้ว จึงถือว่าเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ได้" รอง ผบช.ภ.7 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกันที่วัดไร่ขิงได้จัดงานประกวดพระเครื่องพระบูชา ซึ่งเป็นวันแรกนั้น นายอ้วน นครปฐม เซียนพระชื่อดังและเป็นคณะกรรมการจัดงาน ได้เผยว่างานครั้งนี้ที่มีผู้คนมากราบไหว้พระกันถือว่ามากผิดปกติ สาเหตุส่วนใหญ่ที่มานั้นมาดูพระ  อีกส่วนหนึ่งต้องการมาดูตัวนายเอี่ยม ขอทานใจบุญ จึงทำให้งานเป็นไปอย่างคึกคักตามไปด้วย ต้องขอขอบคุณลุงเอี่ยมด้วยที่เป็นหนึ่งในการสร้างสีสันให้กับวงการพระเครื่อง

นายอำนวย โสภิณ อายุ 55 ปี บ้านอยู่ จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่าต้องการมาทำบุญที่วัด และต้องการมาดูนายเอี่ยม เพราะอ่านจากข่าวแล้วชื่นชอบมากถึงแม้แกจะเป็นขอทาน แต่ก็ยังมีจิตใจดีงามบริจาคเงินให้วัดถึง 1 ล้าน เมื่อมาเห็นแล้วได้พูดคุยเห็นสภาพแล้วสงสาร พร้อมให้กำลังใจและควักเงินมอบให้ 100 บาท เป็นการร่วมทำบุญ เพราะนายเอี่ยมประกาศไว้ว่าในปีหน้าจะบริจาคเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้าน 

เช่นเดียวกับ นายดุษดี ตามกำลัง อายุ 36 ปี บ้านอยู่ จ.นครสวรรค์ เผยว่าชื่นชอบนายเอี่ยมถึงแม้พิการยังต่อสู้ชีวิต ถึงแม้เงินที่ได้จากการขอและทำบุญ แทนที่ลุงจะได้ใช้เงินที่ได้มาอย่างสบาย กลับอดออมใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นส่วนที่เหลือเก็บไว้นำมาบริจาควัดเพื่อทดแทนบุญคุณให้ที่ซุกหัวนอน นับเป็นคนตัวอย่างน่านับถือ 

ทางด้านนายพรเทพ ปัถทวี ไวยาวัจกรณ์ วัดไร่ขิง กล่าวว่า ทางวัดจะไม่ย้ายนายเอี่ยมให้ไปอยู่ที่อื่น เพราะถือว่าเป็นบุคคลตัวอย่างทำความดี ส่วนในเรื่องความปลอดภัยนั้นขณะนี้ได้สั่งให้ อปพร.ที่มาประจำอยู่วัดให้คอยดูแลอย่างดี.

 

โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

17 มีนาคม 2555, 23:45 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น