การเสียชีวิตครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการประกาศผลรางวัลแกรมมี่ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการแสดงการรำลึกถึงเธอด้านไคลฟ์ เดวิส ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของฮุสตันมาอย่างยาวนาน กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และว่าเขารู้สึกหัวใจสลายต่อข่าวการจากไปของฮุสตัน ขณะที่ควินซี โจนส์ โปรดิวเซอร์ชื่อดัง กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจเสมอมาที่ไม่เคยเป็นโปรดิวเซอร์ให้แก่ฮุสตันเลย และยกย่องเธอว่าเป็นศิลปินตัวจริงที่พรสวรรค์ของเธอยากที่จะหาใครเปรียบได้
ในยุคที่เธอก้าวสู่จุดสูงสุดฮุสตันกลายเป็นศิลปินที่ทุกคนต่างต้องการโดยเฉพาะในช่วงยุค 1980-1990 เธอกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดขายอัลบั้มและซิงเกิลสูงที่สุด เธอสามารถสะกดผู้ฟังให้ตะลึงงันกับน้ำเสียงทรงพลังได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่ในช่วงหลังของความสำเร็จในด้านอาชีพ ฮุสตันมีส่วนพัวพันกับการใช้ยาเสพติด ซึ่งทำให้ยอดขายเพลงของเธอตกต่ำลงไปด้วย และแทบไม่ผลิตผลงานออกมาในช่วงหลัง เธออกมายอมรับว่าได้ใช้สารเสพติดประเภทโคเคน กัญชา และยานอนหลับจำนวนมากจริง และไม่สามารถร้องเพลงที่ต้องใช้พลังในการร้องสูงได้อีกต่อไป
ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า ปีศาจคนที่ทำลายเธอก็คือตัวเธอเอง และเธอเองก็สามารถเป็นทั้งเพื่อนที่ดีที่สุดและศัตรูที่จ้องทำลายเธอในคราวเดียวกัน
มีรายงานว่า ข่าวดังกล่าว มีการบอกต่อและเผยแพร่กันผ่านทางเฟซบุ๊กโดยแฟนๆเพลงของ วิทนีย์ ฮูสตัน ต่างแสดงความรู้สึกตกใจ เป็นอย่างมากต่อรายงานที่ระบุว่า นักร้องดังเสียชีวิตแล้ว โดยมีการขึ้น แสดงการไว้อาลัยต่อการจากไป ด้วยการขึ้นข้อความR.I.P. เป็นจำนวนมากบนโลกอินเตอร์เน็ต
ฮุสตันเกิดมาเพื่อที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง มารดาของเธอ ซิสซี ฮุสตัน เป็นนักร้องเพลงกอสเพล ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ดิออน วอร์วิก ก็ได้รับยกย่องให้เป็นป็อปดิวาในช่วงยุค 1960 นอกจากนั้น เธอยังเป็นลูกสาวทูนหัวของราชินีเพลงโซลอย่าง อารีธา แฟรงกลิน อีกด้วย
ฮุสตันเริ่มร้องเพลงในโบสถ์ตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ในช่วงวัยรุ่นเธอเป็นนักร้องแบ็คอัพให้แก่ชาก้า ข่าน นักร้องเพลงโซลผู้มีชื่อเสียงอีกคนของวงการ, เจอร์เมน แจ็คสัน และคนอื่นๆ และไคลฟ์ เดวิส นี่เองที่เห็นพรสวรรค์ในการร้องเพลงของเธอ ระหว่างที่เธอรอแม่ของเธอร้องเพลงในคลับ
ทั้งนี้ ในวิกิพีเดีย ได้รายงานประวัติของ วิทนีย์ ฮูสตัน ไว้ว่า เกิดที่ น้วก รัฐนิวเจอร์ซีย์ วิทนีย์เริ่มร้องประสานเสียงในโบสถ์และได้เป็นผู้ร้องนำ ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 12 ปี เริ่มเข้าวงการฐานะนักร้องประสานเสียง (เคยร่วมงาน กับชาก้า ข่าน และไปปรากฏตัวในคอนเสิร์ตของคุณแม่อยู่บ่อย ๆ) ต่อมาก็ก้าวเข้าสู่โลกนางแบบเมื่อปี 2524 เธอเคยเป็นปกให้นิตยสารกลาเมอร์ และเซเว่นทีน
อัลบั้มแรก Whitney Houston ออกขายในปี 2528 โดยมีเพลงฮิตเพลงแรกคือ "You Give Good Love" ขึ้นสูงสุดอันดับ 3 ในอเมริกา ตามมาด้วยเพลงอันดับ 1 อีก 3 เพลงคือ "Saving All My Love for You", "How Will I Know" และ "Greatest Love of All"
อัลบั้ม Whitney ในปี พ.ศ. 2530 สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นอัลบั้มของศิลปินหญิงชุดแรก ที่เข้าอันดับสัปดาห์แรก อันดับที่ 1 ในนิตยสารบิลบอร์ด วิทนีย์สร้างสถิติในการ มีซิงเกิลที่ติดอันดับ 1 ถึง 7 เพลงติดต่อกัน รวมทั้ง "I Wanna Dance With Somebody (Who Loves Me)", "So Emotional" และ "Where Do Broken Hearts Go" หลังจากนั้นอีก 3 ปี วิทนีย์ก็ออกอัลบั้ม I′m Your Baby Tonight ซึ่งมีเพลงฮิตอีกมากมายหลายเพลง รวมทั้งซิงเกิลในชื่อเดียวกันกับอัลบั้ม ซิงเกิล "I′m Your Baby Tonight" ขึ้นถึงอันดับ 1 ตามมาด้วยเพลงอันดับ 1 "All the Man That I Need" ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดนาน 2 สัปดาห์
ในปี พ.ศ. 2535 วิทนีย์แต่งงานกับนักร้องหนุ่มบ็อบบี้ บราวน์ และยังแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกคู่กับเควิน คอสท์เนอร์ เรื่อง The Bodyguard ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยม ตัวเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้คือ เพลง "I Will Always Love You" ครองอันดับ 1 อยู่นานถึง 14 สัปดาห์ นอกจากนี้ อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Bodyguard ยังได้รับรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี ในปี 2536 อีกด้วย และครองอันดับหนึ่งในชาร์ทบิลบอร์ดนานถึง 20 สัปดาห์อีกด้วย
ฮุสตันก็ยังคงมีงานแสดงภาพยนตร์ควบคู่ไปกับงาน เพลงต่อไปโดยมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่าง สูงเรื่อง Waiting To Exhale ในปี พ.ศ. 2538 เปิดตัวด้วยเพลงอันดับ 1 "Exhale (Shoop Shoop)"
หลังจากนั้นอีก 1 ปี วิทนีย์ก็ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง The Preacher′s Wife คู่กับเดนเซล วอชิงตัน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเช่นกัน และเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่องนี้ก็ติดอันดับเพลงกอสเปลของนิตยสารบิลบอร์ด
เธอได้เข้าวงการโทรทัศน์ในปี 1997 กับรายการภาพยนตร์ชุดทางทีวีเรื่อง Cinderella ซึ่งกลายเป็นรายการที่เรียกเรตติ้งได้สูงสุด ในรอบกว่า 10 ปีของเอบีซีของสถานีโทรทัศน์เอบีซี รายการดังกล่าวเป็นรายการคืนวันอาทิตย์ ของเอบีซี ที่มีผู้ชมสูงสุดในรอบทศวรรษ
ในปี พ.ศ. 2541 วิทนีย์ออกอัลบั้ม My Love Is Your Love ชุดแรกในรอบ 8 ปีที่ไม่ใช่อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ อัลบั้มนี้เธอทำงานร่วมกับ ไวคลีฟ จีน, มิสซี เอลเลียต, ลอรีน ฮิลล์ และเบบีเฟส โดยเพลงแรก "When You Believe" ที่ร้องคู่กับมารายห์ แครี และเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง The Prince of Egypt เพลงนี้ได้รับรางวัลออสการ์ ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย ซิงเกิลต่อมา "Heartbreak Hotel" (ร่วมร้องกับ เฟธ อีวานส์ และ เคลลี ไพรซ์), "It′s Not Right but It′s Okay" (เพลงนี้ชนะรางวัลแกรมมี ซึ่งเป็นตัวที่ 6 ของเธอ ) และ "My Love Is Your Love" ขึ้นชาร์ทติด1 ใน 5
ต่อมาเธอได้ร่วมร้องเพลงในงาน VH1 Diva′s Live ′99 ร่วมกับนักร้องดีวาส์อย่าง แมรี เจ. ไบลจ์, ทีน่า เทอร์เนอร์, แชร์, และ ชาก้า ข่าน
ในปี พ.ศ. 2543 เธอออกอัลบั้มคู่ รวมเพลงฮิตที่ใช้ชื่อง่าย ๆ ว่า The Greatest Hits มีเพลงที่ร้องกับ เอนริเก้ อีเกลเซียส ชื่อ "Could I Have This Kiss Forever", จอร์จ ไมเคิล เพลง "If I Told You That" และ เด็บเบอราห์ ค็อกซ์ เพลง "Same Script, Different Cast"
อัลบั้ม Just Whitney ออกวางขายในปี พ.ศ. 2545 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ในวันที่ 31 สิงหาคม 2009 วิทนีย์ได้ออกอัลบั้ม I Look To You เป็นอัลบั้มในรอบ 7 ปี สามารถขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตในสัปดาห์แรก มีเพลงโปรโมตชื่อ "I Look To You" มีทีมงานที่เก่งกาจมาช่วยโปรดิวเซอร์ เช่น Stargate,Akon,Swizz Beat และอีกมากมาย
ผลงานอัลบั้ม
อัลบั้มWhitney Houston - 1985
Whitney - 1987
I′m Your Baby Tonight - 1990
My Love Is Your Love - 1998
Just Whitney... - 2002
One Wish (The Holiday Album) - 2003
I Look To You - 2009
ซาวด์แทร็ก
อัลบั้มThe Bodyguard - 1992
Waiting To Exhale - 1995
The Preacher′s Wife - 1996
[แก้] อัลบั้มรวมเพลงWhitney: The Greatest Hits- 2000
Love, Whitney - 2001
Artist Collection: Whitney Houston - 2004
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น