วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กองทุนรวมวายุภักษ์ จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2546

วันที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7739 ข่าวสดรายวัน


กองทุนวายุภักษ์


คอลัมน์ที่ 13


กองทุนรวมวายุภักษ์ จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2546

รัฐบาลในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้กองทุนนี้เป็นเครื่องมือของรัฐในการเข้าไประดมเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อช่วยลดภาระของรัฐในการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อนำไปลงทุน

ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกของประชาชนผู้ออมเงินในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ อีกทั้งจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ตลาดทุนของประเทศขยายตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ

จากเดิมการลงทุนของรัฐใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน การกู้เงิน หรือการมอบหมายให้สถาบันการเงินของรัฐลงทุนแทน ซึ่งมีข้อจำกัดทางกฎหมาย และขาดความคล่องตัวในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ 

กองทุนนี้มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ทำหน้าที่ถือครองและบริหารจัดการหลักทรัพย์และการใช้สิทธิของกระทรวงการคลังตามที่กระทรวงการคลังจะมอบหมาย

มีลักษณะของกองทุนรวมแบบยืดหยุ่น (Mutual Fund Flexible Port folio) ประเภทไม่รับซื้อคืนก่อนสิ้นอายุโครงการ (Closed and Fund) อายุโครงการ 10 ปี และอาจขยายอายุโครงการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

วงเงินของการจัดตั้งกองทุนรวมเบื้องต้น 100,000 ล้านบาท โดยจำหน่ายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนประเภทสถาบันและประชาชนทั่วไป และกระทรวงการคลังในฐานะเจ้าของกองทุน

เงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนจะนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินที่รัฐถือครองอยู่ รวมทั้งหุ้น พันธบัตร หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิและตราสารอนุพันธ์อื่นตามหลักการที่กระทรวงการคลังจะกำหนด ซึ่งจะอนุมัติโดยครม. เบื้องต้นกำหนดเป็นหลักเกณฑ์สำคัญ 3 ประการ คือ

1.ลงทุนในหุ้น พันธบัตร หุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ และตราสารอนุพันธ์อื่น โดยซื้อหรือรับโอนสิทธิของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต

2.ลงทุนในหุ้นของรัฐวิสาหกิจที่จะแปรสภาพ

3.ลงทุนในธุรกิจพื้นฐานที่สำคัญและมีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 

สำหรับการลงทุนของกองทุนรวมในระยะแรกเห็นสมควรให้ลงทุนเฉพาะการลงทุนในหุ้นของสถาบันการเงินหรือการลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จะแปรรูปเป็นหลัก

ล่าสุดในปี 2555 กองทุนรวมมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นกว่า 3 แสนล้านบาท มีกำหนดครบอายุในปี 2556 โดยมีแนวโน้มว่ารัฐบาลอาจต่ออายุกองทุนออกไปอีก หรืออาจให้ดำเนินการแบบกองทุนเปิดที่ไม่มีวันหมดอายุ

รัฐบาลเพื่อไทยต้องการให้กองทุนนี้เข้าไปซื้อหุ้นของบมจ.ปตท.และบมจ.การบินไทยในสัดส่วนแห่งละ 2% เพื่อทำให้ภาระหนี้ของทั้ง 2 หน่วยงานไม่ต้องไปรวมอยู่ในหนี้สาธารณะ เพื่อใช้ช่องว่างตรงนี้กู้เงินไปฟื้นฟูประเทศ

นายประสงค์ พูนธเนศ 
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุว่าพร้อมจะดำเนินการ โดยขณะนี้กองทุนมีสภาพคล่องที่สามารถนำมาใช้ดำเนินการได้ ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท 

แต่แนวคิดนี้มีเสียงคัดค้านมาก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จึงประกาศว่า

ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในช่วงปี 2555-2556 


หน้า 6  
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น