วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เปิดชีวิตรัก "วิทนี่ย์ ฮุสตั้น" ผู้ชายในฝันคือยาเสพติด?





 

เปิดชีวิตรัก "วิทนี่ย์ ฮุสตั้น" ผู้ชายในฝันคือยาเสพติด?

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 17:30:55 น.

 




          การเสียชีวิตของ "วิทนีย์ ฮุสตัน" เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากจะสร้างความเสียใจของแฟนเพลงทั่วโลกแล้วยังนำมาซึ่งคำถามคาใจอีกว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ดีว่าสาวเสียงทรงพลังผู้นี้ต้องลาโลกไปก่อนวัยอันสมควร

 

 

          ข้อสันนิษฐานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกไซเบอร์ก็คือ "ยาเสพติด"

 

 

          ชื่อของ "บ็อบบี้ บราวน์" อดีตสามีของวิทนีย์จึงถูกพาดพิงตามไปด้วย ในฐานะของผู้ที่นำเอายาเสพติดเข้ามาในชีวิตของเธอ หลายคนโทษว่า "บ็อบบี้" คือผู้ที่ทำให้ชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ของวิทนีย์ต้องตกต่ำถึงขีดสุด และอีกไม่น้อยที่คิดไปถึงว่าบ็อบบี้คือ "ฆาตกร" ที่ฆ่าวิทนีย์ทางอ้อมด้วยซ้ำไป

 

 

          แต่ไม่ว่าใครจะมองยังไง แต่สำหรับดีว่าสาวคนนี้ บ็อบบี้ บราวน์ คือรักแรกและรักเดียวของเธอ

 

 

 

 

 

 

          วิทนีย์พบกับบ็อบบี้ ในงานเลี้ยงการประกาศผลรางวัลเพลงโซล "Soul Train Music Awards" เมื่อวันที่ 12 เมษายน 1989

 

 

          หลังจากสานสัมพันธ์กันนานเกือบ 3 ปี วิทนีย์ก็ตัดสินใจแต่งงานกับเขา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า บ็อบบี้แต่งงานกับเธอเพราะชื่อเสียงเงินทองมากกว่า เพราะวิทนีย์ในตอนนั้นคือ ซูเปอร์สตาร์ ส่วนบ็อบบี้เป็นแค่อดีตนักร้องดัง ที่มีลูกติดเป็นโขยงและมีเรื่องฉาวไม่หยุดไม่หย่อน 

 

          เธอเคยพูดถึงความทรงจำที่มีต่อการพบกับบ็อบบี้เอาไว้ว่า เขาคือคนที่จริงใจและจะมาเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไป

 

 

          "ตอนที่เขาเดินเข้ามาในงานเลี้ยง โลกของฉันเหมือนหยุดหมุนลงไป พระเจ้า! เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน เขาไม่ได้พยายามจะทำให้ฉันประทับใจเหมือนคนอื่น และเขาไม่มีทีท่าว่ากลัวฉันเหมือนกับคนอื่น ๆ อีกด้วย ก่อนหน้าที่ฉันจะเจอกับบ็อบบี้ ฉันเจอแต่ผู้ชายประเภทที่คิดว่า "ฉันจะต้องทำยังไงเพื่อให้เธอประทับในตัวฉันดีนะ" แต่กับบ็อบบี้มันไม่เป็นแบบนั้น เขาทำตัวปกติ บ็อบบี้รู้ดีว่าสิ่งที่ฉันต้องการคือความรัก ไม่ใช่สิ่งจอมปลอมพวกนั้น"  

 

 

          "ฉันโชคดีที่ได้เจอคนดี เขาดูแลฉันเป็นอย่างดี ฉันรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องกลัวอะไรอีก เพราะถ้าหากมีอะไรเข้ามา เขาจะเตะมันออกไปจากชีวิตฉัน ขืนมาวอแวกับเขาสิ คุณได้โดนดีแน่"

 

 

 

 

 

 

          แต่ดูเหมือนความรักในครั้งนี้จะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ หลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่นานนัก วิทนีย์ก็ตกเป็นข่าวว่ามีปากเสียงกับสามีหลายครั้ง ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ซึ่งในตอนหลังเธอก็ออกมายอมรับว่าเธอมีปากเสียงกับเขาบ่อยจริงตามที่เป็นข่าว แต่โลกของเธอก็ยังคงเป็นสีชมพูเช่นเดิม การระหองระแหงก็ไม่ได้สั่นคลอนความรักของเธอและเขาลงไปแม้แต่น้อย


           "เขาเคยตบฉันครั้งหนึ่ง แต่ฉันเคยตีหัวเขา 3 ครั้ง เขาเลือดไหล เขาบอกว่ามันเจ็บมาก ลูกก็เห็นตอนที่เขาเลือดไหล"


            "เราต่างก็หลงไหลในกันและกัน ฉันหมายถึงเรารักกันมาก เราคลั่งไคล้กัน การทะเลาะกันมันเหมือนเป็นการแสดงความรักแบบหนึ่งของเรา เราทะเลาะกันด้วยความรัก"


 

          ต่อมาไม่นานวิทนีย์ต้องตกเป็นข่าวอีกครั้งว่าเธอกำลังติดยาเสพติดอย่างหนัก ซึ่งคนที่ชักนำเอายาเสพติดเข้ามาในชีวิตของเธอก็ไม่ใช่ใครอื่น "บ็อบบี้ บราวน์" สามีสุดที่รักของเธอนั่นเอง โดยนับตั้งแต่แต่งงานกับวิทนีย์ บ็อบบี้ถูกจับกุมเพราะพัวพันยาเสพติดและแอลกอฮอล์หลายครั้งแล้ว

 


          ข่าวดังกล่าวดูจะเกินจริงในสายตาของแฟนเพลงทั่วโลก หลายคนตั้งคำถามว่า ถ้าหากวิทนีย์เสพยาแล้วเพราะเหตุใด เสียงของเธอถึงไม่ตกลงไปแม้แต่น้อย

 

 

          กระทั่งในเดือนเมษายน 2006 ข้อสงสัยของทุกคนก็หมดไป เมื่อน้องสาวของบ็อบบี้นำภาพถ่ายห้องน้ำในบ้านพักของวิทนีย์ ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์การเสพยาออกมาเปิดเผย

 

 

          ก่อนที่เธอจะยอมรับในรายการของ โอปร่า วินฟรีย์ รายการดังในทีวีอเมริกัน เมื่อปี 2002 ว่า "ฉันเคยติดยาแบบชีวิตไม่ได้เรื่องด้วยปล่อยตัวเองอยู่ในชุดนอนบนเตียงกว่าเจ็ดเดือน"

 

 

          เดือนกันยายน 2006  วิทนีย์ตัดสินใจฟ้องหย่าต่อบ็อบบี้ หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันนานถึง 14 ปีและมีพยานรักด้วยกัน 1 คน โดยศาลตัดสินให้วิทนีย์ได้สิทธิ์ในการดูแลลูกสาวคนเดียวของพวกเขาคือ บ็อบบี้ คริสติน่า ฮุสตัน บราวน์ ซึ่งเมื่อต้นปี 2011 ถูกจับในข้อหาเสพโคเคน

 

 

 


          หลังจากเลิกลากับ บ็อบบี้ บราวน์ วิทนีย์ไม่มีข่าวเกี่ยวพันในเชิงชู้สาวกับใครอีก ชีวิตของเธอดีขึ้นกว่าเดิมในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทวงคืนความเป็นสุดยอดนักร้องกลับคืนมาได้ เพราะสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลงไปมาจากการเสพยา การแสดงคอนเสิร์ตของเธอสร้างความผิดหวังให้กับแฟนเพลง เพราะพลังเสียงของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


 

          หนำซ้ำในปี 2008 บ็อบบี้ยังเปิดเผยผ่านหนังสืออัตชีวประวัติของเขา "The Truth, the Whole Truth and Nothing But" ว่าที่จริงแล้ว วิทนีย์ต่างหากที่ทำให้ทั้งตัวเธอเองและเขาติดยางอมแงม เพราะก่อนแต่งงานกับวิทนีย์ เขาเสพแค่กัญชาอย่างเดียวเท่านั้น แต่วิทนีย์ต่างหากที่เอาโคเคนมาเสพ จนสุดท้ายทั้งเขาและเธอเลยตกเป็นทาสของมัน

 

 

          นอกจากนั้นการแต่งงานกับวิทนีย์ก็ยังเป็นเรื่องผิดพลาด เพราะเขาและเธอเข้ากันไม่ได้เลย นอกจากนั้นวิทนีย์ยังมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ด้วยการมีความสัมพันธ์กับผู้ช่วยสาวของตัวเอง


 

          แต่ถึงอย่างนั้นวิทนีย์ยังชื่นชม บ็อบบี้ บราวน์ อยู่เสมอ เธอกล่าวในรายการของ โอปร่า วินฟรีย์ ว่า "เขาเป็นเหมือนกับยาเสพติดที่ฉันขาดไม่ได้ ฉันทำอะไรไม่ถูกถ้าไม่มีเขา ฉันแทบจะยืนด้วยตัวเองไม่ได้ เราทำทุกอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราทำด้วยกันเสมอ เวลาอยู่บ้าน เขาจะมีความเป็นพ่อสูงมาก เขาแมนมาก ๆ เขาควบคุมทุกอย่าง ฉันชอบแบบนั้น เมื่อเขาพูดฉันจะฟัง ฉันชอบเวลาที่มีคนมาคอยควบคุมฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดี"

 

 

          คำสัมภาษณ์ของวิทนีย์ในวันนั้น แสดงเห็นว่าเธอยังรัก บ็อบบี้ บราวน์ อยู่เสมอ หลายคนบอกว่าความรักที่เธอมีให้กับบ็อบบี้เป็นความรักที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว มันเป็นความรักที่ปราศจากเงื่อนไขและข้อแม้ เขาอาจเลวร้ายในสายตาของคนมากมาย แต่เขาคือผู้ชายในฝันของเธอ และเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นยังไง 

 

 

          เหมือนกับเพลง "I Know him so well" ที่วิทนีย์ร้องคู่กับ ซิสซี่ ฮุสตั้น แม่ของเธอ 


 

          เพลงที่ดูเหมือนจะเป็นบทสรุปชีวิตรักของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1329037089&grpid=01&catid=08&subcatid=0807  




 

ช็อกโลก! "วิทนีย์ ฮูสตัน" ราชินีพลงป๊อบ-R&B ชื่อดัง เสียชีวิตแล้ว!!





 

ช็อกโลก! "วิทนีย์ ฮูสตัน" ราชินีพลงป๊อบ-R&B ชื่อดัง เสียชีวิตแล้ว!!

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 08:49:08 น.




















สำนักข่าว  AP  และสำนักข่าว ABC รายงานว่า   วิทนีย์ ฮูสตัน    นักร้องเพลงป็อป/อาร์แอนด์บีชื่อดังระดับโลก  เจ้าของเพลงดังอย่าง I Will Always Love You,Saving All My Love For You และ Greatest Love Of All    เสียชีวิตแล้ว  ด้วยวัย 48 ปี  

 

 

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวได้รับการเปิดเผยเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์  ตามเวลาท้องถิ่น  โดย Kristen Foster โฆษกส่วนตัวของ   วิทนีย์ ฮูสตัน   ซึ่งไม่ได้ระบุรายละเอียด   สาเหตุและสถานที่การเสียชีวิตของนักร้องดังคนดังกล่าวในครั้งนี้ ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร



ด้านโฆษกตำรวจลอสแองเจลิสกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า พบศพของฮุสตันเมื่อเวลาประมาณ 15.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.55 น. ตามเวลาในไทย ที่โรงแรมเบเวอร์ลี ฮิลตัน ที่เธอเข้าพัก ทั้งเพื่อนสนิทและญาติของเธอยืนยันแล้วว่าเป็นเธอจริง ขณะที่สาเหตุของการเสียชีวิตยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัด แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเกิดจากการฆาตกรรมแต่อย่างใด
 

การเสียชีวิตครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการประกาศผลรางวัลแกรมมี่ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการแสดงการรำลึกถึงเธอด้านไคลฟ์ เดวิส ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของฮุสตันมาอย่างยาวนาน กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และว่าเขารู้สึกหัวใจสลายต่อข่าวการจากไปของฮุสตัน ขณะที่ควินซี โจนส์ โปรดิวเซอร์ชื่อดัง กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจเสมอมาที่ไม่เคยเป็นโปรดิวเซอร์ให้แก่ฮุสตันเลย และยกย่องเธอว่าเป็นศิลปินตัวจริงที่พรสวรรค์ของเธอยากที่จะหาใครเปรียบได้


ในยุคที่เธอก้าวสู่จุดสูงสุดฮุสตันกลายเป็นศิลปินที่ทุกคนต่างต้องการโดยเฉพาะในช่วงยุค 1980-1990 เธอกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดขายอัลบั้มและซิงเกิลสูงที่สุด เธอสามารถสะกดผู้ฟังให้ตะลึงงันกับน้ำเสียงทรงพลังได้อย่างไม่ยากเย็น 

แต่ในช่วงหลังของความสำเร็จในด้านอาชีพ ฮุสตันมีส่วนพัวพันกับการใช้ยาเสพติด ซึ่งทำให้ยอดขายเพลงของเธอตกต่ำลงไปด้วย และแทบไม่ผลิตผลงานออกมาในช่วงหลัง เธออกมายอมรับว่าได้ใช้สารเสพติดประเภทโคเคน กัญชา และยานอนหลับจำนวนมากจริง และไม่สามารถร้องเพลงที่ต้องใช้พลังในการร้องสูงได้อีกต่อไป

ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า ปีศาจคนที่ทำลายเธอก็คือตัวเธอเอง และเธอเองก็สามารถเป็นทั้งเพื่อนที่ดีที่สุดและศัตรูที่จ้องทำลายเธอในคราวเดียวกัน

 

 

 มีรายงานว่า ข่าวดังกล่าว มีการบอกต่อและเผยแพร่กันผ่านทางเฟซบุ๊กโดยแฟนๆเพลงของ วิทนีย์ ฮูสตัน     ต่างแสดงความรู้สึกตกใจ เป็นอย่างมากต่อรายงานที่ระบุว่า นักร้องดังเสียชีวิตแล้ว โดยมีการขึ้น แสดงการไว้อาลัยต่อการจากไป ด้วยการขึ้นข้อความR.I.P.  เป็นจำนวนมากบนโลกอินเตอร์เน็ต 



ฮุสตันเกิดมาเพื่อที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง มารดาของเธอ ซิสซี ฮุสตัน เป็นนักร้องเพลงกอสเพล  ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ดิออน วอร์วิก ก็ได้รับยกย่องให้เป็นป็อปดิวาในช่วงยุค 1960 นอกจากนั้น เธอยังเป็นลูกสาวทูนหัวของราชินีเพลงโซลอย่าง อารีธา แฟรงกลิน อีกด้วย

ฮุสตันเริ่มร้องเพลงในโบสถ์ตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ในช่วงวัยรุ่นเธอเป็นนักร้องแบ็คอัพให้แก่ชาก้า ข่าน นักร้องเพลงโซลผู้มีชื่อเสียงอีกคนของวงการ, เจอร์เมน แจ็คสัน และคนอื่นๆ  และไคลฟ์ เดวิส นี่เองที่เห็นพรสวรรค์ในการร้องเพลงของเธอ ระหว่างที่เธอรอแม่ของเธอร้องเพลงในคลับ

 

 

ทั้งนี้ ในวิกิพีเดีย ได้รายงานประวัติของ  วิทนีย์ ฮูสตัน     ไว้ว่า เกิดที่ น้วก รัฐนิวเจอร์ซีย์ วิทนีย์เริ่มร้องประสานเสียงในโบสถ์และได้เป็นผู้ร้องนำ ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 12 ปี เริ่มเข้าวงการฐานะนักร้องประสานเสียง (เคยร่วมงาน กับชาก้า ข่าน และไปปรากฏตัวในคอนเสิร์ตของคุณแม่อยู่บ่อย ๆ) ต่อมาก็ก้าวเข้าสู่โลกนางแบบเมื่อปี 2524 เธอเคยเป็นปกให้นิตยสารกลาเมอร์ และเซเว่นทีน

 

 

อัลบั้มแรก Whitney Houston ออกขายในปี 2528 โดยมีเพลงฮิตเพลงแรกคือ "You Give Good Love" ขึ้นสูงสุดอันดับ 3 ในอเมริกา ตามมาด้วยเพลงอันดับ 1 อีก 3 เพลงคือ "Saving All My Love for You", "How Will I Know" และ "Greatest Love of All"


อัลบั้ม Whitney ในปี พ.ศ. 2530 สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นอัลบั้มของศิลปินหญิงชุดแรก ที่เข้าอันดับสัปดาห์แรก อันดับที่ 1 ในนิตยสารบิลบอร์ด วิทนีย์สร้างสถิติในการ มีซิงเกิลที่ติดอันดับ 1 ถึง 7 เพลงติดต่อกัน รวมทั้ง "I Wanna Dance With Somebody (Who Loves Me)", "So Emotional" และ "Where Do Broken Hearts Go" หลังจากนั้นอีก 3 ปี วิทนีย์ก็ออกอัลบั้ม I′m Your Baby Tonight ซึ่งมีเพลงฮิตอีกมากมายหลายเพลง รวมทั้งซิงเกิลในชื่อเดียวกันกับอัลบั้ม ซิงเกิล "I′m Your Baby Tonight" ขึ้นถึงอันดับ 1 ตามมาด้วยเพลงอันดับ 1 "All the Man That I Need" ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดนาน 2 สัปดาห์




ในปี พ.ศ. 2535 วิทนีย์แต่งงานกับนักร้องหนุ่มบ็อบบี้ บราวน์ และยังแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกคู่กับเควิน คอสท์เนอร์ เรื่อง The Bodyguard ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยม ตัวเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้คือ เพลง "I Will Always Love You" ครองอันดับ 1 อยู่นานถึง 14 สัปดาห์ นอกจากนี้ อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Bodyguard ยังได้รับรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี ในปี 2536 อีกด้วย และครองอันดับหนึ่งในชาร์ทบิลบอร์ดนานถึง 20 สัปดาห์อีกด้วย

 

ฮุสตันก็ยังคงมีงานแสดงภาพยนตร์ควบคู่ไปกับงาน เพลงต่อไปโดยมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่าง สูงเรื่อง Waiting To Exhale ในปี พ.ศ. 2538 เปิดตัวด้วยเพลงอันดับ 1 "Exhale (Shoop Shoop)"





หลังจากนั้นอีก 1 ปี วิทนีย์ก็ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง The Preacher′s Wife คู่กับเดนเซล วอชิงตัน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเช่นกัน และเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่องนี้ก็ติดอันดับเพลงกอสเปลของนิตยสารบิลบอร์ด


 


เธอได้เข้าวงการโทรทัศน์ในปี 1997 กับรายการภาพยนตร์ชุดทางทีวีเรื่อง Cinderella ซึ่งกลายเป็นรายการที่เรียกเรตติ้งได้สูงสุด ในรอบกว่า 10 ปีของเอบีซีของสถานีโทรทัศน์เอบีซี รายการดังกล่าวเป็นรายการคืนวันอาทิตย์ ของเอบีซี ที่มีผู้ชมสูงสุดในรอบทศวรรษ


ในปี พ.ศ. 2541 วิทนีย์ออกอัลบั้ม My Love Is Your Love ชุดแรกในรอบ 8 ปีที่ไม่ใช่อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ อัลบั้มนี้เธอทำงานร่วมกับ ไวคลีฟ จีน, มิสซี เอลเลียต, ลอรีน ฮิลล์ และเบบีเฟส โดยเพลงแรก "When You Believe" ที่ร้องคู่กับมารายห์ แครี และเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง The Prince of Egypt เพลงนี้ได้รับรางวัลออสการ์ ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย ซิงเกิลต่อมา "Heartbreak Hotel" (ร่วมร้องกับ เฟธ อีวานส์ และ เคลลี ไพรซ์), "It′s Not Right but It′s Okay" (เพลงนี้ชนะรางวัลแกรมมี ซึ่งเป็นตัวที่ 6 ของเธอ ) และ "My Love Is Your Love" ขึ้นชาร์ทติด1 ใน 5




ต่อมาเธอได้ร่วมร้องเพลงในงาน VH1 Diva′s Live ′99 ร่วมกับนักร้องดีวาส์อย่าง แมรี เจ. ไบลจ์, ทีน่า เทอร์เนอร์, แชร์, และ ชาก้า ข่าน

 

 

ในปี พ.ศ. 2543 เธอออกอัลบั้มคู่ รวมเพลงฮิตที่ใช้ชื่อง่าย ๆ ว่า The Greatest Hits มีเพลงที่ร้องกับ เอนริเก้ อีเกลเซียส ชื่อ "Could I Have This Kiss Forever", จอร์จ ไมเคิล เพลง "If I Told You That" และ เด็บเบอราห์ ค็อกซ์ เพลง "Same Script, Different Cast"

 

 

อัลบั้ม Just Whitney ออกวางขายในปี พ.ศ. 2545 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

 

 

ในวันที่ 31 สิงหาคม 2009 วิทนีย์ได้ออกอัลบั้ม I Look To You เป็นอัลบั้มในรอบ 7 ปี สามารถขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตในสัปดาห์แรก มีเพลงโปรโมตชื่อ "I Look To You" มีทีมงานที่เก่งกาจมาช่วยโปรดิวเซอร์ เช่น Stargate,Akon,Swizz Beat และอีกมากมาย

 

 


 ผลงานอัลบั้ม


อัลบั้มWhitney Houston - 1985
Whitney - 1987
I′m Your Baby Tonight - 1990
My Love Is Your Love - 1998
Just Whitney... - 2002
One Wish (The Holiday Album) - 2003
I Look To You - 2009


 ซาวด์แทร็ก

อัลบั้มThe Bodyguard - 1992
Waiting To Exhale - 1995
The Preacher′s Wife - 1996
[แก้] อัลบั้มรวมเพลงWhitney: The Greatest Hits- 2000
Love, Whitney - 2001
Artist Collection: Whitney Houston - 2004

 


 






วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กองทุนรวมวายุภักษ์ จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2546

วันที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7739 ข่าวสดรายวัน


กองทุนวายุภักษ์


คอลัมน์ที่ 13


กองทุนรวมวายุภักษ์ จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2546

รัฐบาลในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้กองทุนนี้เป็นเครื่องมือของรัฐในการเข้าไประดมเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อช่วยลดภาระของรัฐในการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อนำไปลงทุน

ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกของประชาชนผู้ออมเงินในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ อีกทั้งจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ตลาดทุนของประเทศขยายตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ

จากเดิมการลงทุนของรัฐใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน การกู้เงิน หรือการมอบหมายให้สถาบันการเงินของรัฐลงทุนแทน ซึ่งมีข้อจำกัดทางกฎหมาย และขาดความคล่องตัวในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ 

กองทุนนี้มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ทำหน้าที่ถือครองและบริหารจัดการหลักทรัพย์และการใช้สิทธิของกระทรวงการคลังตามที่กระทรวงการคลังจะมอบหมาย

มีลักษณะของกองทุนรวมแบบยืดหยุ่น (Mutual Fund Flexible Port folio) ประเภทไม่รับซื้อคืนก่อนสิ้นอายุโครงการ (Closed and Fund) อายุโครงการ 10 ปี และอาจขยายอายุโครงการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

วงเงินของการจัดตั้งกองทุนรวมเบื้องต้น 100,000 ล้านบาท โดยจำหน่ายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนประเภทสถาบันและประชาชนทั่วไป และกระทรวงการคลังในฐานะเจ้าของกองทุน

เงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนจะนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินที่รัฐถือครองอยู่ รวมทั้งหุ้น พันธบัตร หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิและตราสารอนุพันธ์อื่นตามหลักการที่กระทรวงการคลังจะกำหนด ซึ่งจะอนุมัติโดยครม. เบื้องต้นกำหนดเป็นหลักเกณฑ์สำคัญ 3 ประการ คือ

1.ลงทุนในหุ้น พันธบัตร หุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ และตราสารอนุพันธ์อื่น โดยซื้อหรือรับโอนสิทธิของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต

2.ลงทุนในหุ้นของรัฐวิสาหกิจที่จะแปรสภาพ

3.ลงทุนในธุรกิจพื้นฐานที่สำคัญและมีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 

สำหรับการลงทุนของกองทุนรวมในระยะแรกเห็นสมควรให้ลงทุนเฉพาะการลงทุนในหุ้นของสถาบันการเงินหรือการลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จะแปรรูปเป็นหลัก

ล่าสุดในปี 2555 กองทุนรวมมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นกว่า 3 แสนล้านบาท มีกำหนดครบอายุในปี 2556 โดยมีแนวโน้มว่ารัฐบาลอาจต่ออายุกองทุนออกไปอีก หรืออาจให้ดำเนินการแบบกองทุนเปิดที่ไม่มีวันหมดอายุ

รัฐบาลเพื่อไทยต้องการให้กองทุนนี้เข้าไปซื้อหุ้นของบมจ.ปตท.และบมจ.การบินไทยในสัดส่วนแห่งละ 2% เพื่อทำให้ภาระหนี้ของทั้ง 2 หน่วยงานไม่ต้องไปรวมอยู่ในหนี้สาธารณะ เพื่อใช้ช่องว่างตรงนี้กู้เงินไปฟื้นฟูประเทศ

นายประสงค์ พูนธเนศ 
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุว่าพร้อมจะดำเนินการ โดยขณะนี้กองทุนมีสภาพคล่องที่สามารถนำมาใช้ดำเนินการได้ ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท 

แต่แนวคิดนี้มีเสียงคัดค้านมาก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จึงประกาศว่า

ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในช่วงปี 2555-2556 


หน้า 6  
 

เปิดภาพชุดหายาก"มาริลีน มอนโร"เล่นน้ำสุดเซ็กซี่-แสนคลาสสิก

เปิดภาพชุดหายาก"มาริลีน มอนโร"เล่นน้ำสุดเซ็กซี่-แสนคลาสสิก

วันที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 15:12:48 น.

Share 
















"มาริลีน มอนโร"ชื่อนี้คือเซ็กส์ซิมโบลอมตะที่ไม่มีวันตายไปจากใจของแฟนๆทั่วโลก เพราะความเซ็กซี่อย่างอมตะนิรันดร์กาล เธอคือเซ็กส์สตาร์ที่แม้วายชีพไปแล้วก็ยังเป็นที่กล่าวขวัญถึง และมีผู้ติดตามผลงานของเธออย่างเนือง ๆ จนอาจพูดได้ว่า ความนิยมของเธอไม่ต่างไปจากงานศิลป์ชั้นเยี่ยมที่มีผู้คนแห่ชมอยู่ตลอดเวลา และมักถามหา"ภาพใหม่ ๆ"ของเธออยุู่เสมอ ๆ

 

และภาพต่อไปเป็นบางส่วนของภาพชุดเก่าที่รวบรวมภาพของ"มาริลีน มอนโร"ในท่วงท่าเล่นน้ำในสระอันแสนเซ็กซี่ และหาชมได้ยากชุดหนึ่ง ที่เธอเคยบันทึกภาพไว้

 

 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328429591&grpid=01&catid=08&subcatid=0807